หุ้นไทยปิดตลาด -5.72 จุด โบรกฯ เผยปัจจัยกดดันหลักมาจากหุ้น DELTA ที่ส่งผลต่อดัชนีหลังจากไล่ราคาขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 65 จนกระทั่งทะลุจุดสูงสุดเดิมใกล้ 1000 บาท/หุ้น ทำให้มีแรงขายออกมาในช่วงบ่ายกดดันภาพรวมตลาดให้ปรับตัวลงมา อีกทั้งยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาด้วยหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงแรง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,675-1,680 จุด และแนวรับที่ 1,660-1,665 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 ม.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -5.72 จุด หรือ +0.34% โดยปิดตลาดที่ 1,673.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,428.64 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นในแดนบวก ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลงมาในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,685.11 จุด ขณะเดียวกันในทิศทางขาลงปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,668.07 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 564 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 414 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 998 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +121.17 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,588.80 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,134.39 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -575.58 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 9,094.32 ล้านบาท ปิดที่ 912.00 บาท ลดลง 18.00 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,961.81 ล้านบาท ปิดที่ 12.80 บาท ลดลง 0.60 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,462.88 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,095.68 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,061.96 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาทหรือ 2.04%
2.BH ปิดที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.40%
3.SCC ปิดที่ 345.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 0.88%
4.KBANK ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 1.68%
5.BBL ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาทหรือ 1.66%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 912.00 บาท ลดลง 18.00 บาท หรือ 1.94%
2.PTTEP ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 4.57%
3.HANA ปิดที่ 52.00 บาท ลดลง-1.50 บาท หรือ 2.80%
4.EA ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.56%
5.KCE ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.65%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,264.44 จุด ลดลง -10.17 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,009.90 จุด ลดลง -3.49 จุด หรือ -0.34% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 576.28 จุด ลดลง -5.10 จุด หรือ -0.88%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ โดยช่วงต้นยังดีดตัวขึ้นไปได้แต่ต่อมาพลิกมาไหลลงเข้าสู่แดนลบลงไปลึกก่อนจะรีบาวด์กลับมาได้บ้าง ปัจจัยกดดันหลักมาจากการเคลื่อนไหวของหุ้น DELTA ที่ส่งผลต่อดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากไล่ราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 65 จนกระทั่งทะลุไฮเดิมและราคาในช่วงเช้าวันนี้เข้าใกล้ 1,000 บาท ทำให้มีแรงขายออกมาในช่วงบ่ายกดดันภาพรวมตลาดให้ปรับตัวลงมา
ขณะเดียวกันยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงแรง โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ แม้ว่าจะมีแรงซื้อในกลุ่มแบงก์ใหญ่เข้ามาเก็งกำไรตัวที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานโดดเด่น แต่ยังไม่สามารถพยุงไว้ได้มากนัก ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยตลาดยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยพรุ่งนี้ ประกอบกับ จะมีการประกาศตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฯฐเดือนธ.ค.ในคืนวันศุกร์นี้ โดยประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ให้แนวต้านที่ 1,675-1,680 จุด และแนวรับที่ 1,660-1,665 จุด