จากการศึกษาล่าสุดของ deVere Group พบว่าประมาณสี่ในห้าของลูกค้าที่มีมูลค่าสุทธิสูงได้สอบถามและแสดงความสนใจในการลงทุนคริปโตต่อที่ปรึกษาทางการเงิน หวังกระโดดลงตลาดคริปโต เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงสุดในพอร์ตการลงทุนของพวกเขา แม้ว่าปี 2565 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับคริปโต แต่ 82% ของลูกค้าที่เป็นเศรษฐีได้มองหาการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง
จากการเปิดเผยของ cointelegraph กล่าวอ้างถึงงานวิจัยเชิงข้อมูลจากการสำรวจล่าสุด ที่จัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน deVere Group ในปี 2565 ถึงผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มกราคม พบว่า 8 ใน 10 ของลูกค้าที่มีมูลค่าสุทธิสูง (HNW) ของบริษัทที่ทำการสำรวจ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนระหว่าง 1.2 ล้านถึง 6.1 ล้านดอลลาร์ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโต จากที่ปรึกษาทางการเงินในช่วงรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ Nigel Green ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง deVere Group กล่าวว่า แม้ว่ากลุ่มที่ทำการสำรวจจะเป็น "กลุ่มนักลงทุนหัวคิดแนวอนุรักษ์นิยมมากกว่า" แต่เขาเชื่อว่าความสนใจเกิดจากค่านิยมหลักของ Bitcoin ที่ว่า "ดิจิทัล ทั่วโลก ไร้พรมแดน กระจายอำนาจ และป้องกันการดัดแปลง" ซึ่งการศึกษาในปีที่แล้วจากบริษัท ได้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการลงทุน crypto จากนักลงทุนที่ร่ำรวย
ขณะที่การศึกษาในปี 2563 จาก deVere พบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสำรวจ 700 คนที่มีมูลค่าสุทธิสูงเป็นเจ้าของถือครองคริปโตอยู่แล้วหรือกำลังมองหาที่จะลงทุนใน cryptocurrencies ขณะที่ก่อนสิ้นปี 2565 ในขณะที่การศึกษาของบริษัทในปี 2562 พบว่า 68% ของบุคคล HNW ทั่วโลกมีอยู่แล้ว ลงทุนหรือวางแผนที่จะลงทุนใน crypto ภายในสิ้นปี 2565
Green ยังตั้งข้อสังเกตถึงความสนใจในการให้บริการ crypto แก่ลูกค้าโดยสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเช่น Fidelity, BlackRock และ JPMorgan ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ในรายงานเดือนมิถุนายนจาก PricewaterhouseCoopers พบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิม 89 กองทุนที่สำรวจได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น BTC อยู่แล้ว
CEO ของ deVere เชื่อว่าโมเมนตัมที่น่าสนใจนี้สามารถดำเนินต่อไปได้เมื่อ “ฤดูหนาวของคริปโต (crypto)” ในปี 2565 สิ้นสุดลงหลังจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในระบบการเงินแบบดั้งเดิม
“Bitcoin อยู่ในเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเดือนมกราคมตั้งแต่ปี 2556 จากความหวังที่อัตราเงินเฟ้อจะถึงจุดสูงสุด นโยบายการเงินกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และวิกฤตการณ์ด้านคริปโตต่าง ๆ รวมถึงเวลาสะเด็ดน้ำของกิจการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในอุตสาหกรรม ซึ่งตอนนี้อาจเป็นช่วงของการ เหลียวหลังแลหน้า สั่งสมประสบการณ์เป็นบทเรียนในการก้าวต่อไป”
“cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% นับตั้งแต่ช่วงปลายปี และสิ่งนี้จะไม่ถูกมองข้ามโดยลูกค้าของ HNW และคนอื่นๆ ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งสำหรับอนาคต” Green กล่าวเสริม
บุคคลที่ร่ำรวยไม่ใช่คนเดียวที่เพิ่มการถือครอง crypto ในปีที่ผ่านมา ตามรายงานเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมโดย JPMorgan Chase ระบุว่าประมาณ 13% ของประชากรอเมริกัน หรือประมาณ 43 ล้านคน ถือครอง cryptocurrency ในช่วงหนึ่งของชีวิต เพิ่มขึ้นจากเพียง 3% ในปี 2563
82% of millionaires seek advice on crypto as Bitcoin soars#PressRelease
https://t.co/nv6HSZBxEs— deVere Group (@deveregroup) January 30, 2023
