การยอมรับคริปโตทั่วโลกเดินทางมาถึงหลักไมล์ใหม่ด้วยจำนวนผู้ถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 425 ล้านรายในปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ถือบิตคอยน์พุ่งขึ้นอยู่ที่ 219 ล้านรายในเดือนธันวาคม และจำนวนผู้ถืออีเธอเรียม 87 ล้านราย อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า อัตราขยายตัวรายเดือนของจำนวนผู้ถือ ETH เพิ่มขึ้นสูงกว่า BTC ตลอดปีที่แล้ว ยกเว้นแค่เมษายนเพียงเดือนเดียว
สัปดาห์ที่ผ่านมา Crypto.com ได้เผยแพร่รายงานที่ชื่อว่า “Crypto Market Sizing” ประจำปี 2022 โดยอธิบายว่า รายงานฉบับนี้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบิตคอยน์และอีเธอร์ในบล็อกเชน การวิเคราะห์ผลสำรวจความคิดเห็น และข้อมูลภายในของบริษัท
เกี่ยวกับจำนวนเจ้าของคริปโตโดยรวมนั้น ทีมวิจัยและข้อมูลเชิงลึกของ Crypto.com ระบุว่า แม้เผชิญปัจจัยลบทางเศรษฐกิจคือภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ความขัดแย้งในยุโรป ห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน และผลกระทบตกค้างจากวิกฤตโควิด ทว่า จำนวนการยอมรับคริปโตในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยจำนวนผู้ถือครองคริปโตโดยรวมทั่วโลก 425 ล้านราย (ข้อมูลจนถึงเดือนธันวาคม 2022) หรือเพิ่มขึ้น 39% จาก 306 ล้านรายเมื่อต้นปีที่แล้ว
รายงานยังเผยว่า จำนวนเจ้าของบิตคอยน์ (BTC) เพิ่มขึ้น 20% จาก 183 ล้านรายในเดือนมกราคม เป็น 219 ล้านรายในเดือนธันวาคม หรือเท่ากับ 52% ของจำนวนผู้ถือครองคริปโตทั่วโลก
จำนวนเจ้าของบิตคอยน์เพิ่มขึ้นมากที่สุดในเดือนเมษายนที่สาธารณรัฐแอฟริกากลางกลายเป็นประเทศที่สองรองจากเอลซัลวาดอร์ที่ยอมรับคริปโตสกุลนี้เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
เดือนเดียวกันนั้นโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เสนอเงินกู้ที่ค้ำประกันด้วยบิตคอยน์เป็นครั้งแรก ตอกย้ำสัญญาณว่า สถาบันการเงินในวอลล์สตรีทสนใจคริปโตมากขึ้น
ขณะเดียวกัน จำนวนเจ้าของอีเธอเรียม (ETH) เพิ่มขึ้นถึง 263% จาก 24 ล้านรายในเดือนมกราคม เป็น 87 ล้านรายในเดือนธันวาคม หรือ 20% ของจำนวนผู้ถือคริปโตทั่วโลก
รายงานแจงว่า ปัจจัยกระตุ้นหลักเบื้องหลังอัตราการยอมรับอีเธอร์ที่พุ่งโด่งคือ “เดอะ เมิร์ช” หรือการอัพเกรดอีเธอเรียม ทีมวิจัยของ Crypto.com ยังตั้งข้อสังเกตว่า อัตราเติบโตรายเดือนของอีเธอร์สูงกว่าบิตคอยน์ตลอดปีที่แล้ว ยกเว้นเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งบริษัทที่ประเมินจำนวนเจ้าของคริปโตทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้คือ ทริปเปิล เอที่ระบุว่า นับจากต้นปีนี้จำนวนเจ้าของคริปโตทั่วโลกจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 4.2% หรือกว่า 420 ล้านราย
