"รมว.คลัง" ชูโมเดลท่องเที่ยวไทยบนเวที World Economic Forum (WEF) หนุนเมืองรอง กระจายรายได้ชุมชน ดันยุทธศาสตร์ 5 F ดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สอดรับนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ ฟื้นฟูเศรษฐกิจยั่งยืน
วันนี้ (20 ม.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2566 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการเสวนา ในฐานะผู้เสวนาหลักภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก” เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะในธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว ดำเนินรายการโดยนาย Richard Quest สื่อมวลชนจากสำนักข่าว CNN ท่ามกลางความสนใจของผู้ร่วมเสวนาเป็นอย่างมาก
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ของไทยต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เช่น การดำเนินการภายใต้ Phuket Sandbox และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไทยมีนโยบายในการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวให้เข้าถึงชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย ลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก รวมถึงสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายและใช้เวลาในประเทศให้มากขึ้น ทั้งนี้ ไทยได้ใช้ยุทธศาสตร์วัฒนธรรมที่มีคุณภาพ หรือซอฟต์เพาเวอร์ 5F (Food, Fashion, Festival, Fighting (Thai Boxing), Film) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นอกจากนี้ ไทยอาจพิจารณาดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) ในอนาคต เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในธุรกิจการบินด้วย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ไทยได้รับความสนใจจากเวทีโลกในการพัฒนาภาคท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
