บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ก่อคดี ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษดำเนินคดีอาญามากที่สุด
ล่าสุด กรรมการและอดีตกรรมการ EARTH จำนวน 7 ราย ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ในความผิดไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายหรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์
รวมทั้งความผิดกรณีไม่ชี้แจงประเด็นที่ ก.ล.ต.ขอให้ชี้แจง
ขณะเกิดเหตุกรรมการ 4 ราย ประกอบด้วยนายวิเชฏฐ์ เทียนทอง นายปฏิพัทธิ์ ศุภาศิริสินธุ์ นายเสกสรร ใบศักดิ์ และนายประทีป ชินแสงทิพย์ ได้ลงมติอนุมัติในการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวาระการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กลุ่มผู้บริหาร EARTH เดิม จำนวน 973,241,553 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.0001 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 97,324 บาท
การเพิ่มทุนครั้งนั้นมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น EARTH อย่างมาก โดยไม่ปรากฏว่า กรรมการทั้ง 4 รายได้ปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทในการให้ความเห็นของคณะกรรมการในหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลและผลกระทบของการเสนอวาระออกหุ้น
ทั้งที่เป็นการเสนอขายหุ้น PP ในราคาที่ต่ำมาก และมีสัดส่วนของหุ้นที่เสนอขายคิดเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญถึงร้อยละ 27.52 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
ก.ล.ต.ขอให้กรรมการของ EARTH ชี้แจงข้อมูลความเห็นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลของการออกหุ้น PP สาเหตุที่เสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติที่ราคาหุ้นละ 0.0001 บาท การพิจารณาเปรียบเทียบราคาหุ้นที่จะเสนอขายกับมูลค่าตามบัญชี หรือมูลค่ายุติธรรมของหุ้น
แต่กรรมการและอดีตกรรมการ EARTH 6 ราย ประกอบด้วย นายวิเชฏฐ์ เทียนทอง นายปฏิพัทธิ์ ศุภาศิริสินธุ์ นายเสกสรร ใบศักดิ์ นายยศพงษ์ โพธสุธน นายสุริยัน ทองพิกุล พ.อ.คณยศ สุขสงวน กลับไม่ชี้แจงให้ตรงตามประเด็นคำถามที่ระบุในหนังสือของ ก.ล.ต. ถือได้ว่าเป็นการไม่ชี้แจง อันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
คณะกรรมการชุดนายวิเชษฐ์ ถือเป็นคณะกรรมการชุดใหม่ที่เข้ามาแทนคณะกรรมการชุดนายขจรพงศ์ คำดี และนายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ ซึ่งถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษจนไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้บริหารได้
แต่คณะกรรมการ EARTH ชุดใหม่เอื้อประโยชน์กรรมการชุดเดิม โดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนเกือบ 1 พันล้านหุ้น ขายให้กรรมการชุดเดิม ในราคาหุ้นละ 0.0001 บาท ซึ่งทำให้กรรมการชุดเดิมสามารถกลับมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ EARTH ได้ โดยใช้เงินเพียง 97,324 บาท เท่านั้น แต่สามารถคุมเสียงโหวตในมติต่างๆ ของ EARTH ได้
ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย EARTH จำนวนกว่า 1.6 หมื่นราย ซื้อหุ้น EARTH ในราคาหลายบาท หรือในราคาหลายสิบสตางค์ และสุดท้ายหุ้นมีค่าเป็นศูนย์ ผูถือหุ้นรายย่อยจึงหมดตัว
ก่อนหน้านี้ อดีตผู้บริหาร EARTH กลุ่มนายขจรพงศ์ และนายพิสุทธิ์ ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษดำเนินคดีนับไม่ถ้วน ทั้งความผิดร่วมกันสร้างหนี้เทียมจำนวน 2.6 หมื่นล้าน การปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น รวมทั้งความผิดปลอมแปลงใบนำเข้าถ่านหิน โดยความผิดอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นสอบสวนของตำรวจ
สำหรับความผิดการออกหุ้นเพิ่มทุนขายให้กรรมการชุดเดิมในราคาถูกอย่างน่าเกลียด ตบหน้าผู้ถือหุ้นรายย่อย EARTH นั้น สมควรแล้วที่ ก.ล.ต.จะกล่าวโทษดำเนินคดีอาญาต่อกรรมการและอดีตกรรมการ EARTH ทั้ง 7 คน
หายนะของนักลงทุนรายย่อยเกือบ 2 หมื่นราย ซึ่งหลวมตัวเข้าไปลงทุนในหุ้น EARTH จะต้องมีผู้ชดใช้กรรม
และคดีที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษไปนับไม่ถ้วน ไม่น่าจะถูกตัดตอนหรือเป่าคดีทั้งหมด
เพราะอย่างน้อยน่าจะมีสัก 1 คดีที่สามารถลากคออดีตผู้บริหาร EARTH โคตรโกงมาลงโทษได้