เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ว่า กรณีที่ Norges Bank (ธนาคารกลางนอร์เวย์) ตัดสินใจนำหลักทรัพย์ PTT และ OR ออกจาก Investment universe ของกองทุน Pension Fund ของรัฐบาลนอร์เวย์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เนื่องจากความเสี่ยงที่ทั้งสองบริษัทอาจมีการลงทุนที่เข้าข่ายสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาทางอ้อม ขัดกับแนวปฏิบัติของกองทุนในข้อ Section 4(a) ตามความเห็นของคณะกรรมการจริยธรรมกองทุน (Council of Ethics) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ทำให้กองทุนต้องขายหลักทรัพย์ PTT และ OR ที่ถืออยู่ 0.35% และ 0.23% ออกไป
ซึ่งข่าวดังกล่าวคาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ขณะที่ต้องตามต่อว่าจะมีกองทุนต่างประเทศกองอื่นๆ ตัดสินใจแบบเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากทาง OR ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัทที่เข้าร่วมลงทุนหลังจากบริษัทดังกล่าวติดอยู่ในรายชื่อ sanction list ของประเทศตะวันตก
ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้น PTT และ OR สุดท้ายแล้วจะปรับตัวตามปัจจัยพื้นฐานในระยะกลางถึงยาว โดยทาง นวค. KS ให้ราคาเหมาะสมของ PTT และ OR ที่ 42.75 บาท และ 29.50 บาทตามลำดับ
โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 รอยเตอร์ระบุว่ากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาตินอร์เวย์ (Norway Sovereign Wealth Fund) ประกาศถอนการลงทุนออกจาก บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) รวมถึงบริษัทอิสราเอลอีก 1 แห่ง คือ Cognyte Software Ltd ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ของอิสราเอล โดยระบุว่ามีความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
คณะกรรมการจริยธรรม (The Council on Ethics) กล่าวว่า ความร่วมมือของบริษัทไทยและกองทัพของเมียนมา ทำให้กองทัพมีแหล่งรายได้จำนวนมากที่สามารถใช้เป็นเงินทุนในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งกองทุนดังกล่าวอ้างถึงความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ที่บริษัทมีส่วนในการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรงในสถานการณ์สงครามหรือความขัดแย้ง
โดย บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท. กำลังร่วมมือกับบริษัทน้ำมัน Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐในแหล่งก๊าซนอกชายฝั่ง 3 แห่งในเมียนมา PTTOR เป็นพันธมิตรในการร่วมทุนกับ Myanmar Economic Corporation (MEC) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัททางทหารของกองทัพ เพื่อก่อสร้างและดำเนินการคลังน้ำมันและโรงบรรจุก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กองกำลังติดอาวุธในเมียนมาได้ทำการรัฐประหาร หลังจากนั้นกองทัพได้เพิ่มความรุนแรงต่อการปฏิบัติมิชอบต่อพลเรือนอย่างร้ายแรง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในประเทศ ปตท. และ PTTOR ช่วยให้กองทัพมีแหล่งรายได้จำนวนมากที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารและการละเมิด ความร่วมมือทางธุรกิจของบริษัทกับ MOGE และ MEC แสดงถึงความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ในการมีส่วนทำให้เกิดการละเมิดบรรทัดฐานที่ร้ายแรงอย่างยิ่งในอนาคต
โดยรอยเตอร์ระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ระบุว่าจะเข้าครอบครองกิจการแหล่งก๊าซยาดานาในเมียนมา หลังจาก TotalEnergies ของฝรั่งเศสออกจากที่นั่น