xs
xsm
sm
md
lg

โกงยันโค้ด!! สื่อนอกแฉพบโค้ดฝังในระบบ FTX ไม่บังคับขายสินทรัพย์ของ Alameda ต่อให้ขาดทุนยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สื่อนอกแฉพบโค้ดในระบบเทรดของ FTX ซึ่งการเขียนคำสั่งโค้ดดังกล่าวนั้นเชื่อมโยงกับฮาร์ดโค้ดในการผูกพันธ์คำสั่งในการตรึงทรัพย์สินในที่เป็นของ Alameda Research โดยจะตอกหมุดเพิ่มการยกเว้นในสินทรัพย์นั้นๆไม่ให้ถูกบังคับขายจากสภาวะตลาดที่เกิดความผันผวน แม้ว่าจะส่งผลให้เกิดการขาดทุนมากขนาดไหนก็ตาม

สำนักข่าวรอยส์เตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ระบบบล็อกเชนได้เปิดเผยถึงโค้ดปริศนาในการตรึงสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งถูกแก้ไขเพิ่มการยกเว้นไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2563 ขณะเดียวกัน Nishad Singh หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ FTX ได้ให้เหตุผลถึงการสร้างเงื่อนไขในโค้ดดังกล่าวนั้นว่า "ที่ต้องใส่โค้ดเพื่อป้องกันการบังคับขายสินทรัพย์ของ Alameda" ซึ่งมีพนักงานของ FTX ที่รู้ว่ามีโค้ดนี้อยู่ในระบบเพียงไม่กี่คน และที่หน้าจอ dashboard ในด้านการแสดงระดับสินทรัพย์ในตลาดก็มีการแก้ไข โดยข้ามการแสดงผล หรือยกเว้นในการประมวลผลส่วนที่เป็นของ Alameda ออกไป ซึ่งทำให้ผลที่ได้ บิดเบือนจากมูลค่าสินทรัพย์ที่แท้จริง โดยสินทรัพย์สุทธิที่ปรากฏจะมีมากกว่าที่มีอยู่จริง

นอกจากนี้ ผู้ให้ข้อมูลยังระบุด้วยว่า Sam Bankman-Fried หรือ SBF อดีต CEO ของ FTX เป็นผู้ออกคำสั่งให้มีการแก้ไขโค้ดส่วนนี้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่กลางปี 2563 โดยไม่มีลูกค้ารายอื่นของ FTX ได้รับสิทธิพิเศษนี้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการบังคับขายเป็นขั้นตอนปกติที่ตลาดซื้อขายจะป้องกันตัวเองในกรณีนี้ที่ลูกค้าขาดทุนจนเป็นหนี้ตัวตลาดซื้อขาย

ทั้งนี้มีนักลงทุนในชุมชนคริปโตต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางมากว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สะท้อนภาพถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (ลวง) ที่ล้วนแล้วแต่เสกขึ้นเอง เพื่อบันดาลสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้สร้างเหรียญคริปโตนั้นๆ โดยจะเห็นได้จากเจ้าของเหรียญคริปโตหลายสกุลที่เสกความมั่งคั่งขึ้นมาจากเหรียญที่ตนเองสร้างขึ้น โดยอาศัยเครื่องมือคือความโลภที่กระตุ้นความอยากที่จะหวังร่ำรวยเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน จากนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันการลงทุน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ากลุ่มนักลงทุนที่คลั่งไคล้เหรียญคริปโตนั้น ต่อต้านและปฏิเสธเงิน Fiat หรือ Fiat Money ซึ่งเป็นเงินที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ (เป็นเงินที่สามารถจับต้องได้ และได้รับการรับรองโดยธนาคารแห่งชาติของแต่ละประเทศ และธนาคารโลก) โดยยึดถือว่าเงินดังกล่าวนั้นอยู่ในกรอบที่รับบาลหรือหน่วยงานกำกับดูแลการบังคับใช้กฏหมายกำหนด ซึ่งจะมีความแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีอิสระมากกว่า เป็นการกระจายอำนาจ ไม่อยู่ในพันธสัญญาอำนาจการกำกับดูแลขององค์กรรัฐใด แต่ในทางปฏิบัตินั้นกลับย้อนแย้งกันโดยสิ้นเชิง เพราะทุกคนทราบกันดีว่าท้ายที่สุดแล้ว เงินคริปโตเหล่านั้นจะถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการแลกเปลี่ยน กลับมาเป็นเงิน Fiat อีกครั้ง เพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตจริง เหมือนที่นำเงินจริงไปแลกชิปในบ่อนการพนัน สุดท้ายก่อนจะออกจากบ่อนการพนัน ไม่ว่าจะได้มากได้น้อย หรือเสียมากเสียน้อย ก็ต้องนำชิปนั้นมาแลกเป็นเงินตราปกติ เพื่อนำมาใช้จ่ายอยู่ดี


กำลังโหลดความคิดเห็น