xs
xsm
sm
md
lg

พอร์ต "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ 5 บริษัท มูลค่ารวม 3,310 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กางพอร์ต "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ ขาใหญ่ในตลาดหุ้นไทย พอร์ตลงทุนรวม 5 บริษัท มูลค่ากว่า 3,310 ล้านบาท โดยพอร์ตหลักถือ BEM จำนวน 316,825,657 หุ้น หรือสัดส่วน 2.07% มูลค่า 2,914 ล้านบาท

ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงผันผวน จากปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ทำให้ราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น กระทบให้เงินเฟ้อขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับการผ่อนคลายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบให้นักลงทุนรายใหญ่ปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงหันไปถือสินทรัพย์ที่มั่นคงแทน

จากการสำรวจพอร์ตการลงทุน นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันถือครองหุ้นรวมทั้งสิ้น 5 หลักทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 3,310,806,915.40 บาท (คำนวณจากราคาปิด ณ วันที่ 2 พ.ย. 65 ยกเว้น PACE คำนวณจากราคาปิดก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามการซื้อขายตั้งแต่ 28 เม.ย.65) ประกอบด้วย

1. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษและบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง

ณ วันที่ 31 ต.ค.65 ปรากฎรายชื่อ เสี่ยยักษ์ ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 7 จำนวน 316,825,657 หุ้น หรือ 2.07% คิดเป็นมูลค่า 2,914,796,044.40 บาท (คำนวณจากราคาปิด ณ 2 พ.ย. 65 ราคา 9.20 บาท)

จากก่อนหน้า ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 อันดับที่ 5 จำนวน 386,545,048 หุ้น หรือ 2.53%

2. บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS ดำเนินธุรกิจผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง

ณ วันที่ 25 ส.ค.65 ถือหุ้นอันดับ 7 จำนวน 15,350,000 หุ้น หรือ 4.89% คิดเป็นมูลค่า 129,707,500 บาท (คำนวณจากราคาปิด ณ 2 พ.ย. 65 ราคา 8.45 บาท)

โดยเริ่มถือตั้งแต่ IPO วันที่ 28 เม.ย.65 ถือลำดับที่ 8 จำนวน 8,300,000หุ้น หรือ 2.64%

3.บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC ดำเนินธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งธุรกิจให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรมโรงไฟฟ้า การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์โรงไฟฟ้า และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบครบวงจร

ณ วันที่ 9 มี.ค.65 ถือหุ้นอันดับที่ 5 จำนวน 57,998,600 หุ้น หรือ 2.59% คิดเป็นมูลค่า 215,754,792 บาท (คำนวณจากราคาปิด ณ 2 พ.ย. 65 ราคา 3.72 บาท)

โดยเริ่มถือตั้งแต่ IPO วันที่ 13 ส.ค.63 ถือลำดับที่ 8 จำนวน 18,000,000 หุ้น หรือ 0.80%

4.บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทลด้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ภายใต้ของเครื่องหมายการค้า "ดีน แอนด์ เดลูก้า" โดยเป็นเจ้าของสาขาดีน แอนด์ เดลูก้าทั้งหมดในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย

ณ วันที่ 16 มี.ค.63 ถือหุ้นอันดับที่ 15 จำนวน 284,965,300 หุ้น หรือ 1.98% โดยเริ่มถือตั้งแต่ 6 ก.พ. 2560 ลำดับที่ 12 จำนวน 66,975,800 หุ้น หรือ 1.98% คิดเป็นมูลค่า 8,548,959 บาท (คำนวณจากราคาปิด ก่อนถูกขึ้นเครื่องหมาย SP)

ปัจจุบัน PACE อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ ประกาศเพิกถอน PACE เนื่องจากบริษัทยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 63 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.63 ภายในเวลาที่กำหนด โดยล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ 31 มีนาคม 2564 จนกระทั่งปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ ขึ้นเครื่องหมาย SP วันที่ 28 เม.ย.65 และวันที่ 29 เม.ย.65 ขึ้นเครื่องหมาย NP เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินได้

5.บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TH ณ วันที่ 17 พ.ค.65 ถือหุ้นอันดับที่ 10 จำนวน 16,153,700 หุ้น หรือ 1.67% คิดเป็นมูลค่า 41,999,620 บาท (คำนวณจากราคาปิด ณ 2 พ.ย. 65 ราคา 2.60 บาท)

โดยเริ่มถือตั้งแต่ 14 มี.ค. 2565 ลำดับที่ 6 จำนวน 19,192,400 หุ้น หรือ 1.99%




กำลังโหลดความคิดเห็น