กองสืบนครบาลบุกรวบ “โค้ชจอห์น 100 ลีลา” หรือนายกรัณย์กฤษฏิ์ ชวดชุม เซียนหุ้นจอมลวงโลก อาศัยสร้างโปรไฟล์ปลอมหลอกฉ้อโกงทางออนไลน์ แอบอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับหุ้น มีเหยื่อหลงเชื่อกว่า 140 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท แนะประชาชนที่ได้รับความเสียหายให้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความ พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อเพราะอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าว พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว. และ ร.ต.อ.ธนพล มโนสร รอง สว. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุม
นายกรัณย์กฤษฏิ์ ชวดชุม หรือปอ หรือ “โค้ชจอห์น 100 ลีลา” อายุ 36 ปี อยู่ที่ 1 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ได้ที่ริม ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาฉ้อโกง พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินบัตร ATM จำนวน 2 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม สำเนาสลิปที่เกี่ยวข้อง 2 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เอกสารระบุสัญญาร่วมลงทุน จำนวน 1 ชุด/4 ใบ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 1 ชุด
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” กว่า 140 ราย ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุม นายกรัณย์กฤษฏิ์ มีอาชีพเป็นครูสอนเทรดหุ้น แต่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 140 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบทราบว่า นายกรัณย์กฤษฏิ์ เป็นคนพื้นเพที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จากนั้นเริ่มเดินสายฉ้อโกงทางออนไลน์ เปลี่ยนถิ่นที่อยู่ไปอยู่ในพื้นที่ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง กระทั่งผันตัวมาเป็นครูสอนเทรดหุ้น โดยใช้ชื่อเรียกตนเองว่า “โค้ชจอห์น” แอบอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับหุ้น
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ระหว่างก่อเหตุ นายกรัณย์กฤษฏิ์ แอบอ้างว่า มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับหุ้น โดยเนื้อหาที่สอนนั้นกับมีเพียงคลิปวิดีโอ 4 คลิป ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป แต่จะสรรหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้ตนมีความน่าเชื่อถือจนมีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก ในห้วงเวลาใกล้กันยังเดินสายฉ้อโกงทางออนไลน์ โดยใช้ความเชื่อทางศาสนาหลอกลวงผู้คนไปด้วย เช่น หลอกซื้อขายเช่าบูชาพระ หลอกซื้อขายซิมโทรศัพท์เบอร์มงคล หลอกจัดทำบุญกฐิน ก่อเหตุมาโชกโชนถึงปัจจุบัน ตรวจสอบข้อมูลประวัติการกระทำความผิดผู้ต้องหาพบหมายจับ 4 หมายจับ ประกอบด้วย 1.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 88/2565 ลงวันที่ 30 ก.พ.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” (หมายศาล) 2.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 214/2565 ลงวันที่ 28 มี.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” (หมายศาล) 3.หมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 194/2564 ลงวันที่ 7 ก.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก” ท้องที่ สน.ท่าข้าม และ 4.หมายจับศาลแขวงกระบี่ ที่ 5/2565 ลงวันที่ 10 ม.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง ปลอมเอกสาร และใช้หรืออ้างเอกสารปลอม” ท้องที่ สภ.อ่าวนาง ภ.จว.กระบี่
ทั้งนี้ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหาทุกหมายจับ อ้างว่า ตนเองจบ ป.ตรี คณะรัฐศาสตร์ ย่านหัวหมาก หลังเรียนจบทำงานเป็นพนักงานจัดซื้อจนถึงปี 52-53 ผันตัวมาเป็นพ่อค้าออนไลน์ และทำธุรกิจอีกหลายอย่าง กระทั่งเริ่มเข้าสู่การเทรดหุ้น แต่ด้วยราคาหุ้นตกทำให้ไม่มีเงินไปคืนคนอื่น จึงตัดสินใจตัดช่องทางการติดต่อ โดยมีบางรายตนเองจ่ายเงินชดใช้เป็นเช็คเงินสด แต่ก็เป็นเช็คที่ไม่สามารถสั่งจ่ายได้ ส่วนการฉ้อโกงขายพระนั้น อ้างว่า เป็นคนมีความรู้เรื่องพระ ไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกงแต่อย่างใด และการย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ใน จ.เชียงใหม่ นั้น เนื่องจากคนรู้จักให้ไปใช้ชื่อเป็นเจ้าบ้าน และปัจจุบันที่มาอยู่ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตนเองไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ปัจจุบันมีความสำนึก แต่คงยังไม่มีเงินไปคืนให้ผู้เสียหาย จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง
อย่างไรก็ตาม จากคำให้การในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานข้อมูลเสียหายและข้อมูลจากการสืบสวนนั้นขัดแย้งกัน ผู้ต้องหาหลอกนักลงทุนหุ้น หลอกลวงขายพระเครื่อง ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการหลอกลวง และใช้ความเชื่อเรื่องศาสนา หลอกลวงมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี มีความชำนาญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายนักลงทุนหุ้นหน้าใหม่ถึงขนาดยอมนำเงินมาให้คนร้ายเทรดให้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกแจ้งผ่านเพจ บก.สส.บช.น. หรือท้องที่แจ้งความเพื่ออายัดตัวดำเนินคดี ส่วนท่านใดเมื่อใดถูกชักชวนให้ลงทุนใดๆ ให้ตรวจสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ว่า มีชื่อหรือบัญชีธนาคารดังกล่าวแจ้งเตือนอยู่ในกลุ่มผู้หลอกลวงหรือไม่ เพื่อยืนยันก่อนทุกครั้ง และขอฝากว่าหากพบเบาะแสอื่นสามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากแต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร.