xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งแขกดำตุ๋นจำนำเพชรเก๊ เสียหายกว่า 16 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจ PCT จับกุมชาวอินเดียร่วมมือคนไทยตระเวนนำเพชรและใบเซอร์ปลอมไปจำนำรวม 21 ครั้ง เสียหายกว่า 16 ล้านบาท

วันนี้ (4 พ.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 จับกุมนายซาจัน ดิบคูมาร์ อายุ 32 ปี สัญชาติอินเดีย และนายธนะสิทธิ์ สถิตมงคลไพศาล อายุ 45 ปี โดยกล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม พร้อมตรวจยึดตั๋วรับจำนำ 10 ฉบับ วัตถุคล้ายเพชร 18 รายการ ใบรับรองเพชร 19 ฉบับ เอกสารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชร 7 ฉบับและอื่นๆ รวม 9 รายการ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่นมา ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ว่า ประมาณวันที่ 15 มิ.ย. ถึง 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงเอาเพชรปลอมมาจำนำรวม 21 ครั้งทำให้เสียหายกว่า 16 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีผู้ร่วมขบวนการเป็นชาวต่างชาติ และแหล่งผลิตทำเพชรปลอมนำเข้ามาจากต่างประเทศ พร้อมทำใบรับรองหรือใบเซอร์ ตบตาทางร้านจนร้านผู้เสียหายหลงเชื่อรับจำนำเพชรในราคาที่สูงแต่ได้เพชรปลอมทำให้สูญเงินจำนวนมาก

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากแผนประทุษกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพถือว่าเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศปอส.ตร (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้นำชุดปฏิบัติการ PCT สืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วจากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจนพิสูจน์ทราบผู้ร่วมขบวนการทั้ง 2 คน เดินทางมาก่อเหตุหลอกจำนำเพชรที่ร้านพร้อมกันทุกครั้งจากข้อมูลการสืบสวนทราบว่า นายซาจัน เดินทางไปมาระหว่างประเทศไทย-อินเดีย 4 ครั้ง ช่วงเดือน ต.ค. เพื่อลักลอบนำเพชรปลอมมาจากต่างประเทศ จนสืบสวนจับกุมก่อนนำตัวมาขยายผลการทราบข้อมูลว่าก่อเหตุลักษณะดังกล่าวทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่าอยู่ระหว่างการติดตามประสานงานกับเหยื่อร้านรับจำนำและจากการขยายผลทราบว่า นายซาจัน หลอกลวงมากว่า 10 ปี โดยทรัพย์สินจากการหลอกลวงมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ชั้นจับกุมนายธนะสิทธิ์ รับสารภาพทำร้านจิวเวลรีและรับซื้อ-ขายเพชร ต่อมานายซาจัน เข้ามาที่ร้าน ทำความรู้จักแล้วเสนองานให้รับวางจำนำเพชรที่นายซาจันเตรียมมาจากประเทศอินเดีย โดยเป็นเพชรที่มีใบเซอร์ตรงกับเลขตัวเพชร ตามสถานที่รับจำนำต่างๆ โดยเริ่มต้นวางจำนำที่โรงรับจำนำย่านบ้านแขกโดยนำเพชรมาจำนำที่ร้านตั้งแต่ปี 2559 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเริ่มวางจำนำเดินสายโรงรับจำนำ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ย่านบางใหญ่ นนทบุรี เป็นที่แรก แล้ววางจำนำเรื่อยมา ตามสาขาต่างๆ ได้แก่ แยกไฟฉาย บรมราชชนนี

ทั้งนี้ชั้นจับกุมนายซาจันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าทำธุรกิจค้าขายเพชรมานานกว่า 10 ปี โดยขายเพชรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 กะรัต มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ช่วงแรกซื้อเพชรมาจากประเทศอินเดีย ฮ่องกง บางครั้งซื้อในประเทศไทยเพื่อขายเก็งกำไร และเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึงปัจจุบันมาจำนำเพื่อรอขายในประเทศไทยหากเป็นเพชรเม็ดใหญ่จะนำเพชรพร้อมใบรับรองมาให้ตนที่ประเทศไทยครั้งละ 5-6 เม็ด หากเป็นเพชรเม็ดเล็ก จะจัดส่งพัสดุมาให้ที่ประเทศไทยและเมื่อตรวจดูรหัสเพชรแล้ว เห็นว่ารหัสเพชรตรงกับใบรับรองน่าเชื่อว่าเป็นเพชรจริง จึงรับฝากขายไว้ จะแบ่งเป็นค่าจ้างให้นายธนะสิทธิ์ ครั้งละประมาณ 10,000 บาท และตั้งแต่เดือน มิ.ย. ถึง ต.ค. ได้เงินจากการนำเพชรไปจำนำแล้วประมาณ 13 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น