xs
xsm
sm
md
lg

PRIME ออกหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท รองรับการขยายงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไพร์ม โรด เพาเวอร์ เตรียมออกหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 2 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 5.20% ต่อปี จำหน่ายให้ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยเงินที่ระดมทุนได้ส่วนใหญ่เพื่อลงทุนเปิดโครงการใหม่ในประเทศไทย ไต้หวัน กัมพูชา และประเทศอื่นๆ เปิดจองซื้อ 29-30 พ.ย. และ 1 ธ.ค.65

นายสมประสงค์ ปัญจลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME เปิดเผยว่า PRIME เตรียมการออกหุ้นกู้มูลค่า 2 พันล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ให้ได้ในระดับ 1,800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 หรือ ภายใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่กำลังจะออกเป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ จำนวนจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท จำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ เปิดให้จองซื้อในช่วง 29-30 พ.ย. และ 1 ธ.ค.2565 ติดต่อสอบถามข้อมูล หรือจองซื้อหุ้นกู้ได้ที่ บล.บลูเบลล์ โทร.0-2249-2999 Line Official : @BlueBellFin บล.เอเซีย พลัส โทร.0-2680-4004 บล.โนมูระ พัฒนสิน โทร.0-2638-5500 Line Official : @nomuradirect บล.ดาโอ (ประเทศไทย) โทร.0-2351-1800 บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง โทร.0-2695-5000 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) โทร.0-2658-8888 และ 0-2658-8945 บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) โทร.0-2846-8675 บลจ.เอเชีย เวลท์ โทร.0-2207-2124 Line Official : @awam บล.โกลเบล็ก โทร.0-2687-7159

PRIME เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในการเป็นผู้พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ รวมถึงเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อการประหยัดพลังงาน ณ สิ้นไตรมาส 3 PRIME มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าติดตั้งรวม 300.4 เมกะวัตต์ โดยมีการดำเนินธุรกิจใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และกัมพูชา ทั้งนี้ โครงการ National Solar Park ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ขนาด 77 เมกะวัตต์ มีกำหนดจะ COD ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2565

จากการที่ประเทศต่างๆ กำลังให้ความสำคัญกับการนำพลังงานทดแทนมาใช้แทนที่พลังงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่ได้จากฟอสซิล หรือน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก PRIME ตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้มีการหันมาใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น โดยได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มการผลิตไฟ้ฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ 1,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 และเป็น 1,800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 จากที่กล่าวมา PRIME มีแผนในการนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ส่วนใหญ่ไปใช้ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ไต้หวัน กัมพูชา และประเทศอื่นๆ และใช้เงินส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

นอกจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ PRIME ยังมีการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น พลังงานลม พลังงานก๊าซชีวภาพ พลังงานชีวมวล และพลังงานจากขยะ อีกทั้ง PRIME ยังมีการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน เช่น ธุรกิจบริการด้านวิศวกรรม จัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ และธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop Engineering, Procurement, and Construction (EPC) ซึ่งรับบริหารจัดการด้านการประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานแบบครบวงจร (one-stop-services) และธุรกิจขายไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop Private-Power Purchase Agreement (PPA) เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้รายบุคคลที่กำลังเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมา

จากความสำเร็จในการขายหุ้นกู้มูลค่า 1 พันล้านบาทเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ PRIME ทำให้บริษัทฯ คาดว่าการขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนดังเช่นที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น