xs
xsm
sm
md
lg

เม็ดเงินลงทุนไหลออกตามตามภูมิภาค กดหุ้นไทยปิดตลาดร่วง -13.91 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -13.91 จุด โบรกฯ มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตามภูมิภาค ซึ่งแกว่งตัวสลับแนวบวกและแนวลบ และผลประกอบการในไตรมาส 3/65 ที่ใกล้ประกาศครบ อีกทั้งยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์เข้ามา ประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้ ให้แนวรับที่ 1,615, 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 พ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -13.91 จุด หรือ -0.85% โดยปิดตลาดที่ 1,623.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,876.47 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีปรับตัวลงมาและแกว่งตัวในแดนลบ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,633.76 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,618.28 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 461 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 441 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,367 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,631.49 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +934.91 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่านักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,317.86 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,248.54 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,493.80 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,549.69 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,411.20 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,095.81 ล้านบาท ปิดที่ 188.30 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,572.73 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 348.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.16%
2.PSL ปิดที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 3.33%
3.FORTH ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.80%
4.COM7 ปิดที่ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.64%
5.CRC ปิดที่ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.22%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 229.00 บาท ลดลง 10.00 บาทหรือ 4.18%
2.CBG ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 4.06 %
3.KBANKปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 2.36%
4.CENTEL ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 5.97 %
5.BBL ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 1.37 %

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,226.57 จุด ลดลง -20.25 จุด หรือ -0.90% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 992.15 จุด ลดลง -9.15 จุด หรือ -0.91% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 616.13 จุด ลดลง -9.38 จุด หรือ -1.50%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตาม Sentiment ตลาดเอเชีย ไม่ได้สดใสมากนัก โดยตลาดเอเชียแกว่งตัวสลับขึ้นลงทั้งแดนบวกและลบ อีกทั้งผลประกอบการในไตรมาส 3/65 ที่ใกล้ประกาศครบก็มีแรงขาย sell on fact ออกมา โดยเฉพาะแรงขายกลุ่มแบงก์ ซึ่งงบที่ประกาศสัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นไปตามตลาดคาดจึงมีแรงขายออกมา นอกจากนี้เงินบาทวันนี้เริ่มชะลอการแข็งค่า จากสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่ามาก สะท้อนเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติชะลอไหลเข้า ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงในระยะสั้น

สำหรับประเด็นหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อหุ้นขนาดกลางและเล็ก และหุ้นเชื่อมโยง MORE เพราะ MORE มีการลงทุนในบริษัทอื่นด้วย อาทิ HEMP, COMAN ทั้งนี้ ดัชนี mai วันนี้ปรับตัวลง 1.5% ขณะที่ดัชนี SET ลบ 0.9%

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แนะให้เลือกลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 ออกมาดี โดยให้แนวรับที่ 1,615, 1,620 จุด แนวต้านที่ 1,630 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น