หุ้นไทยปิดพุ่งแรง +18.06 จุด โบรกฯ เผยตลาดคลายกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด อีกทั้งจีนปรับมาตรการคุมโควิดลดวันกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ คาดอาทิตย์หน้ายังแกว่งในทิศทางบวกต่อมองกรอบแนวต้าน 1,650 จุด และแนวรับ 1,630 จุด
หุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 11 พ.ย.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 18.06 จุด หรือ +1.12% โดยปิดตลาดที่ 1,637.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 86,477.24 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นตั้งแต่ในช่วงของการเปิดตลาดซื้อขายภาคเช้า จนกระทั่งปืดตลาดโดยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,640.03 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงระดับต่ำสุดที่ 1,629.57 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 1,199 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 458 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 670 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +5,336.94 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,042.68 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -5,879.68 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -499.93 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,272.59 ล้านบาท ปิดที่ 75.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,623.85 ล้านบาท ปิดที่ 620.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท
3.MINT มูลค่าการซื้อขาย 2,607.92 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,551.73 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 2,003.17 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 239.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 2.58%
2.SCC ปิดที่ 344.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00บาท หรือ 1.47%
3.AEONTS ปิดที่ 161.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50บาท หรือ 2.22%
4.ADVANC ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาท หรือ 1.34%
5.HANA ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25บาท หรือ 6.12 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BLA ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 6.15%
2.FORTH ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.02%
3.RATCH ปิดที่ 41.00 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 1.20%
4.PTTEP ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.26%
5.SINGER ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.68%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,246.82 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด หรือ 1.32% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,001.30 จุด เพิ่มขึ้น 13.67 จุด หรือ 1.38% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 625.51 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด หรือ 0.08%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ราว 1% รับแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี หลังจากปรับลงไปค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้คาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.5% ในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ยังได้รับ Sentiment เชิงบวกในช่วงบ่าย จากการที่จีนประกาศลดระยะเวลากักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศเหลือ 8 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวทั้งหมด 10 วัน ส่งสัญญาณดีต่อแนวโน้มการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางที่ปรับขึ้นไปได้ต่อเนื่อง หลังจากเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเป็นแรงหนุนให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้า โดยประเมินกรอบดัชนีแนวต้านที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ 1,630 จุด
