xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดกลับมากังวลดอกเบี้ยเฟดอีกรอบกด SET INDEX ปิดร่วง -0.71 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -0.71 จุด โบรกฯ เผยดัชนีหุ้นไทยแกว่งในทิศทางลบ จากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ที่อาจประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แนะติดตามเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่ โดยประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,650 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 พ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -0.71 จุด หรือ -0.04% โดยปิดตลาดที่ 1,625.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,481.75 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,630.56 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,622.30 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 541หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 650 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,001 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +2,502.36 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +26.19 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +122.36 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,650.91 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BTG มูลค่าการซื้อขาย 8,716.11 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
2.AAI มูลค่าการซื้อขาย 3,412.59 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ลดลง 1.05 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,427.70 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,177.53 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,154.22 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCGP ปิดที่55.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.27 %
2.BCP ปิดที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.03%
3.KKP ปิดที่73.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.38%
4.BH ปิดที่227.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.44%
5.PTTGCปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.69%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.FORTH ปิดที่ 48.25 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 6.31%
2.AEONTS ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.53%
3.CENTEL ปิดที่ 49.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.93%
4.INTUCH ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.37%
5.ADVANC ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.52%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,225.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.80 จุด หรือ 0.13% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 991.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ 0.20% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 640.52 จุด ลดลง -8.30 จุด หรือ -1.28%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง ระหว่างที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่ที่สำคัญคือรอติดตามว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่

หากการประชุมครั้งนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดไปแล้วตามที่ตลาดคาด ก็จะส่งผลดีสินทรัพย์เสี่ยง เงินดอลลาร์น่าจะอ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่หากไม่ได้ออกมาตามที่ตลาดคาดอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวก็เป็นปัจจัยหนุนภาพระยะกลาง แต่ระยะสั้นอาจมีแรงขาย อย่างไรก็ดี มองว่าหากยืนระดับ 1,610 จุดได้ก็น่าจะไปต่อได้

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่ตลาดต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ต.ค.65 ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ตลาดคาดไว้ที่ 6% ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเชื่อว่าเงินเฟ้อจะเริ่มทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังมีปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาดก็จะปรับขึ้นมาได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคาดอาจมีแรงขายออกมา โดยให้แนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,650 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น