หุ้นไทยปิดตลาดพุ่ง +16.97 จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ โบรกฯ ชี้ดัชนีสะท้อนทิศทางบวกจากแนวโน้มจีนยกเลิกล็อกดาวน์และกลับมาเปิดประเทศ หนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวการบินและบริการตลอดจนถึงกลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ แนะจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ ระดับ 0.75% พร้อมประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า +16.97 จุด หรือ +1.05% โดยปิดตลาดที่ 1,625.73 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 68,448.75 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,628.29 จุด ขณะเดียวกันที่ปรับตัวลดลงระดับต่ำสุดที่ 1,613.96 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,222หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 473 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 534 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +6,138.46 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -5,858.28 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -233.34 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -46.84 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AAI มูลค่าการซื้อขาย 7,405.83 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 3.35 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,101.73 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
3.SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,359.18 ล้านบาท ปิดที่ 337.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,170.37 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,869.96 ล้านบาท ปิดที่ 604.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 337.00 บาท เพิ่มขึ้น 13.00 บาท หรือ 4.01%
2.PTTEPปิดที่ 187.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาทหรือ 3.03%
3.GPSCปิดที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 6.05%
4.ADVANC ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.31%
5.KCE ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 4.76 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.FORTHปิดที่ 51.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.83%
2.BH ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.44%
3.KKP ปิดที่ 72.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.68%
4.DTAC ปิดที่ 44.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.11%
5.CRC ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.60%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,223.07 จุด เพิ่มขึ้น 23.10 จุด หรือ 1.05% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 989.52 จุด เพิ่มขึ้น 10.07 จุด หรือ 1.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 648.81 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด หรือ 0.45%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้ค่อนข้างโดดเด่นในช่วงบ่าย โดยได้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาจากความคาดหวังว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศหลังจากล็อกดาวน์คุมเข้มโควิด-19 หลังมีกระแสข่าวว่าจีนจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปิดประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และยุโรป ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลางสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ และการประชุมครั้งหน้า (ธ.ค.65) จะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าเดิมอีกแล้ว
สำหรับทิศทางตลาดพรุ่งนี้ มองว่าดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หลังจากที่วันนี้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวที่แนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด