อีกไม่กี่วันหุ้นเพิ่มทุนบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE จำนวน 197 ล้านหุ้น ซึ่งเกิดจากการแปลงสภาพครั้งสุดท้ายของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 2 หรือวอร์แรนต์อ MORE-W2 จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
แต่นักลงทุนที่นำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในราคาหุ้นละ 2 บาท คงเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า งานนี้เสียรู้ MORE และจะต้องขาดทุนถ้วนหน้า
เพราะราคาหุ้น MORE ทรุดหนัก รูดติดฟลอร์ 2 วันติด ปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 1.37 บาท และไม่รู้ว่าจะมีฟลอร์ที่ 3 หรือไม่
คณะกรรมการ MORE มีมติเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 อนุมัติออกวอร์แรนต์รุ่นที่ 2 จำนวน 545 ล้านหุ้น โดยแจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 12 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ มีอายุ 2 ปี กำหนดการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 1 ต่อ 1 ในราคาแปลงสภาพ 2 ปี และแปลงสภาพครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนวอร์แรนต์จะหมดอายุ
ในช่วงครบกำหนดแปลงสภาพครั้งสุดท้าย ราคาหุ้น MORE ที่ซื้อขายบนกระดานเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 2.50 บาท จึงจูงใจให้นักลงทุนที่ถือวอร์แรนต์นำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพ
เพราะเห็นส่วนต่างจากราคาบนกระดานประมาณ 25% และหวังว่าเมื่อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพเข้าซื้อขายจะขายหุ้นทำกำไร
แต่ทุกคนต้องตกสวรรค์ เพราะราคาหุ้นบนกระดานดิ่งลงเหว ถูกทุบรูดต่ำกว่าราคาแปลงสภาพกว่า 30% ทั้งที่นักลงทุนที่นำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพยังไม่ได้แตะใบหุ้นใหม่แต่อย่างใด
หุ้นที่เกิดจากการแปลงวอร์แรนต์รุ่นที่ 2 ครั้งสุดท้ายตายตั้งแต่อยู่ในท้อง หรืออยู่ในสภาพตายทั้งกลม โดยนักลงทุนไม่อาจแก้ไข หนีตายหรือตัดขาดทุนใดๆ ได้ เพราะใบหุ้นยังมาไม่ถึงมือ และยังไม่นำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เกมปล้นพิสดารหุ้น MORE โดยนักลงทุนขาใหญ่ตั้งนอมินีมาสั่งซื้อหุ้นและขายหุ้นราคาเดียวกันในช่วง ATO หรือช่วงเปิดการซื้อขาย เพื่อสูบเงินจากโบรกเกอร์
คำสั่งซื้อหุ้น MORE รวมกันจำนวน 1,531.77 ล้านหุ้น ในราคา 2.90 บาท ขาใหญ่ที่สั่งซื้อจะชักดาบ เบี้ยวไม่จ่ายค่าซื้อหุ้น จำนวนเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท
ส่วนนอมินีที่เปิดพอร์ตนำหุ้น MORE รอไว้ก่อน และสั่งขายหุ้นช่วง ATO โบรกเกอร์จะต้องจ่ายเงินให้ผู้ขายจำนวนประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่มีเหตุที่ทำให้เกิดการสั่งระงับการชำระราคาค่าหุ้นไว้ชั่วคราว ไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังแผนปล้นเงินจากโบรกเกอร์จะหอบกำไรส่วนต่างมากกว่า 3 พันล้านบาทไป
แต่เกมปล้นพิสดารครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงกับหุ้น MORE ราคาถูกทุบดิ่งลงเหว ภาพลักษณ์ตกต่ำสุดชีด และมีแนวโน้มที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนตายซาก
เพราะผลประกอบการไม่ดี เพียงแต่ปี 2564 สามารถแสดงตัวเลขผลกำไร 1,158 ล้านบาทได้ เพราะการขายทรัพย์สินและปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าขาดทุนติดต่อกันหลายปี
หลังเกมคำสั่งซื้อขายหุ้นช่วง ATO พิสดารปิดฉากลง โดยนักลงทุนขาใหญ่ที่วางแผนอยู่เบื้องหลังรวยไปกวา 3 พันล้านบาท MORE อาจเปิดฐานะการดำเนินงานที่เป็นจริงออกมา
ผลประกอบการคงกลับไปสู่ฐานะที่ย่ำแย่เหมือนเก่า
นักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้น MORE จำนวนกว่า 6 พันคน ซึ่งไม่มีใครหนีทัน ขาดทุนกันป่นปี้จากหุ้นตัวนี้ ซึ่งใช้เวลาปั้นตัวเองจนดูเหมือนดีอยู่หลายปี
แต่นักลงทุนที่น่าเห็นใจที่สุดคือ คนที่นำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญจำนวน 197 ล้านหุ้น
เพราะเพิ่งจ่ายเงินแปลงสภาพวอร์แรนต์ไปหยกๆ ขาดทุนบักโกรกเสียแล้ว โดยไม่มีโอกาสตั้งตัวแม้แต่วินาทีเดียว