xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเวียดนามรอวันกลับมา / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียปีนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามตกอยู่ในอาการที่ย่ำแย่หนักสุด เพราะภายในเวลาไม่กี่เดือน เจอมรสุมแรงๆ ถล่มใส่อย่างต่อเนื่อง จนดัชนีหุ้นหลุด 1,000 จุด และคาดกันว่ามีแนวโน้มจะทรุดลงต่อไป

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามถือเป็นดาวรุ่ง นักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้าไปลงทุน รวมทั้งนักลงทุนจากไทย ขณะที่นักลงทุนในประเทศก็ฮึกเหิมเก็งกำไร มือใหม่เปิดบัญชีซื้อขายเพิ่มขึ้น

ปี 2563 ดัชนีหุ้นเวียดนามยืนอยู่ประมาณ 1,000 จุด แต่หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดัชนีทรุดลงเหลือประมาณ 600 จุด ก่อนเริ่มฟื้นตัวขึ้น

ปี 2564 หุ้นเวียดนามคึกคักสุดเหวี่ยง ดัชนีที่เคยลงต่ำสุดระดับ 600 จุด เด้งขึ้นปิดที่ประมาณ 1,517 จุดในสิ้นปี และขยับขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมาในระดับ 520 จุด

แต่หลังจากนั้น เจอเข้ากับวิกฤตหุ้นกู้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งซึ่งไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดได้ จนรัฐบาลเวียดนามต้องดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการออกหุ้นกู้ รวมทั้งดำเนินมาตรการปราบปรามกวาดล้างการกระทำความผิดในตลาดหุ้น ลงโทษทั้งนักลงทุนและผู้บริหาร ก.ล.ต.เวียดนาม

นอกจากนั้น ยังถูกซ้ำเติมด้วยธนาคารขนาดเล็กที่มีปัญหาฐานะทางการเงิน จนผู้ฝากเงินแห่ถอนเงิน ขณะที่มีการประกาศประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4% โดยเดือนกันยายนขึ้นดอกเบี้ย 1% และปลายเดือนตุลาคมประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 1%

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 8-9% กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายเงินออกจากตลาดหุ้น นำไปฝากหาผลตอบแทนจากดอกเบี้ย ฉุดให้บรรยากาศการลงทุนการซื้อขายหุ้นซบเซาขึ้นอีก

ดัชนีเวียดนามล่าสุดเคลื่อนไหวประมาณ 990 จุด และคาดว่าอาจปรับตัวลงถึงระดับ 950 จุด และอาจฟื้นตัวขึ้นประมาณกลางปีหน้า

เศรษฐกิจของเวียดนามยังแข็งแกร่ง โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีปีนี้จะเติบโตประมาณ 7.1% ปีหน้าคาดว่าเติบโต 7% และปี 2567 โตประมาณ 6.5%

การส่งออกยังสดใส เงินลงทุนจากต่างชาติยังไหลเข้า แต่เพราะปัจจัยลบที่กระหน่ำเป็นระลอกจึงทำให้หุ้นผันผวนรุนแรง

โครงสร้างตลาดหุ้นเวียดนามมีความเปราะบาง เพราะมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก โดยมูลค่าซื้อขายหุ้นกว่า 70% เกิดจากนักลงทุนรายย่อยภายใน ซึ่งส่วนใหญ่มีพฤติกรรมซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้นรายวัน และเมื่อเกิดปัจจัยลบกระทบจะแห่เทขายหุ้นด้วยความตื่นตระหนก

นักลงทุนไทยเริ่มให้ความสนใจลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามประมาณปี 2559 แต่จำนวนยังน้อย จนประมาณปลายปี 2564 ช่วงที่หุ้นเวียดนามบูม จำนวนนักลงทุนไทยที่ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ติดหุ้นต้นทุนสูง

เพียงแต่นักลงทุนที่ลงทุนหุ้นเวียดนาม ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะยาว และวางแผนที่จะถือหุ้นเวียดนามอย่างน้อย 2 ปี จึงไม่ได้ขายหุ้นทิ้ง ความเสียหายจึงยังไม่เกิด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์ต่างประเทศหลายสำนักมองว่า ในระยะสั้นแนวโน้มตลาดหุ้นเวียดนามยังอยู่ในช่วงขาลง แต่ยังเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจ เพราะเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตสูง การลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

และโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแรง จะกระตุ้นให้หุ้นเวียดนามกระเตื้องขึ้นมาใหม่ เพียงแต่รอการปรับฐานให้สะเด็ดน้ำก่อนเท่านั้น

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่ม เป็นนักลงทุนไทยรุ่นแรกๆ ที่บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม และไม่ได้สั่นไหวกับวิกฤตหุ้นเวียดนามในรอบนี้ แต่ยังมีมุมมองในเชิงบวกอยู่

นักลงทุนที่นำเงินไปซื้ออนาคตหุ้นเวียดนาม และส่วนใหญ่ “ติดดอย” ทุกคนเชื่อว่า ตลาดหุ้นเวียดนามจะกลับมาเป็นดาวรุ่งอีกครั้ง เพียงแต่ต้องกัดฟันรอคอยกันเท่านั้น








กำลังโหลดความคิดเห็น