พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ถวายพระภิกษุ สามเณร และบำรุงพระอาราม ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยธนาคารและลูกค้าประชาชนที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมถวายปัจจัยสมทบองค์ผ้าพระกฐิน เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตามประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบเนื่องไป
นายชาญวิทย์ นาคบุรี ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประจำปี 2565 ในวันนี้ (25 ต.ค.) ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีคณะผู้บริหาร และพนักงานธนาคารร่วมในพิธีว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์นำไปถวายพระภิกษุ สามเณร และบำรุงพระอาราม ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีพระสงฆ์ และสามเณรจำพรรษา จำนวน 248 รูป
โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ถวายปัจจัยเพื่อสมทบองค์ผ้าพระกฐินเป็นจำนวนเงิน 3,389,700 บาท และเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาทั้งคณะผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานของธนาคาร รวมถึงลูกค้าประชาชนทั่วไปได้ร่วมถวายปัจจัยเพื่อสมทบองค์ผ้าพระกฐินเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามให้มั่นคงถาวร พร้อมสืบทอดเจตนารมณ์ในการเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่ให้ความสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทยให้เจริญรุ่งเรือง สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ และเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมต่อไป
นอกจากนี้ ธนาคารยังมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 บาท ให้โรงเรียน 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโสธรวรารามวรวิหาร โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร และโรงเรียนบ้านหนองโสน จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยเหลือเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของธนาคารในด้านการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และการศึกษา โดยตลอดระยะเวลากว่า 69 ปี ธอส. ได้สร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4 ล้านครอบครัว พร้อมให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรม CSR เพื่อตอบแทนสังคม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และปลูกฝังความเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคมให้แก่บุคลากรในองค์กร เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน