ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล ลงบันทึกความเข้าใจในการร่วมทุน (MOU) กับ "ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์" ตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อร่วมกันประกอบกิจการท่าเทียบเรือคอนเทนเนอร์ 16C
นายชนะชัย ชุติมาวรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเนิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTE ผู้ให้บริการขนถ่ายสินค้าเรือเดินสมุทร ให้เช่าโกดังเก็บสินค้าและบริการท่าเทียบเรือ เปิดเผยว่า วานนี้ (19 ต.ค.) บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในการร่วมทุน (MOU) กับบริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด หรือ TIL เพื่อตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการประกอบกิจการท่าเทียบเรือคอนเทนเนอร์ 16C ตั้งอยู่ ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะเริ่มประกอบกิจการเป็นท่าเทียบเรือชายฝั่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจการขนถ่ายสินค้าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ในอนาคต รวมถึงการเซ็น MOU ในครั้งนี้จะส่งผลให้ไทยชูการ์ สามารถขยายธุรกิจโลจิสติกส์ได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
สำหรับบริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จํากัด หรือ TIL โดย นายสุเมธ บุญบรรดารสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 มีทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน) มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ เป็นกิจการของคนไทย 100% ทั้งนี้ TIL ได้ลงทุนในโครงการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังกับพันธมิตรต่างชาติ ได้แก่ ESCO, ECTT และ ONE ในนามบริษัท เอ แอล จี (ประเทศไทย) จํากัด หรือ ALG นอกจากนี้ TIL ยังได้ลงทุนในธุรกิจลานตู้เปล่าร่วมกับพันธมิตร ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์และซ่อมแซมตู้คอนเทนเนอร์ ได้แก่ บริษัท เอ แอล จีคอนเทนเนอร์เซอร์วิส จำกัด หรือ ALGCS
ขณะเดียวกัน TIL ยังมีแผนงานในการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สนับสนุนระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ 1.บริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ทรานสปอร์ต จำกัด หรือ TT ดำเนินการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าและตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ 2.บริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด หรือ TE ดำเนินการเกี่ยวกับการซ่อมแซมตู้คอนเทนเนอร์ 3.บริษัท เอ แอล จี ปิโตรเลียม จำกัด หรือ ALGPT ดําเนินการเกี่ยวกับสถานีบริการน้ำมัน (ลงนาม MOU กับ Chevron) และ 4.ALGAS (ยังไม่ได้จดทะเบียน) ดำเนินการเกี่ยวกับการซ่อมแซมยานพาหนะ เครื่องยนต์และอุปกรณ์เครื่องมือ
“การลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยไทยอินเตอร์โลจิสติกส์ ถือเป็นโอเปอเรเตอร์เรือชายฝั่ง ที่มีแบ็กกราวนด์ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการยกระดับศักยภาพของการดำเนินธุรกิจ เพื่อคว้าโอกาสในการให้บริการที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจในระยะยาว” นายชนะชัย กล่าว
