xs
xsm
sm
md
lg

III เพิ่มทุนกว่า 5.5 พันล้าน ปรับเอเชีย เน็ตเวิร์คฯ เตรียมเข็นเข้า SET

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บอร์ด "ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์" ไฟเขียวเพิ่มทุนอีก 25.387,820.50 บาท เพื่อเข้าลงทุนเพิ่มใน Asia GSA (M) จากผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่ารวมกว่า 5,520 ล้านบาท ปรับโครงสร้างธุรกิจ Asia Network International ก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 66 อีกทั้งสร้างฐานทุนแกร่งรองรับการขยายธุรกิจอื่น พร้อมมองหาโอกาสลงทุนต่อเนื่อง เน้นการร่วมลงทุนและควบรวมกิจการ พร้อมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นี้

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทมีมติอนุมัติการเข้าซื้อกิจการ Asia GSA (M) ผ่านบริษัทย่อย เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (Asia Network International หรือ ANI) ที่ III ถือหุ้นในสัดส่วน 50.35 % โดยเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5,520 ล้านบาท นับเป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของบริษัทในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ดังนั้น ANI ต้องเข้าถือหุ้น Asia GSA (M) เพิ่มเป็น 100% เพื่อขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างกลุ่ม ANI กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ANI รวมทั้งสิ้น 1,600,000 หุ้น รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 212,300,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 5,520 ล้านบาท ซึ่งชำระค่าหุ้นจำนวน 217,391 หุ้น คิดเป็น 10.9% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่ารวม 28.85 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 750 ล้านบาท จะชำระด้วยวิธีแลกหุ้น (share swap) โดย Superior ออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ขาย 18,138 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1,590.31 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 41,348 บาทต่อหุ้น

ส่วนหุ้นอีก 1,382,609 หุ้น คิดเป็น 69.1% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่ารวม 183.45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 4,770 ล้านบาท จะแบ่งชำระด้วยเงินสดโดยกู้ยืมจาก ANI ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Superior ประมาณ 1,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจากการชำระค่าหุ้น ด้วยเงินสดจะเป็นการชำระตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับผู้ขาย

“การเข้าลงทุนใน Asia GSA (M) ครั้งนี้ จะช่วยสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ ในระยะยาว ด้วยการขยายเครือข่ายการให้บริการด้านโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย ผ่านเครือข่ายพันธมิตรมากกว่า 10 ประเทศและสามารถขยายเครือข่ายพันธมิตรไปสู่ภูมิภาคอื่นทั่วโลก ซึ่งจะเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างที่จะทไให้บริษัทฯ เติบโตสู่การเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในเอเชียที่มีเครือข่ายและฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคนี้” นายทิพย์ กล่าว

ดังนั้น บอร์ดจึงอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีก 25,387,820.50 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 380,817,306.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 406,205,126.50 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 50,775,641 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offerings) ในอัตราจัดสรร 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนที่จะสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจอื่นๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในอนาคต และ III จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นี้

ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการ Asia GSA (M) ของ III ผ่านบริษัทย่อย ANI จะเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาสแรกของปี 2566 ขณะแผนการนำ ANI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดขอยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนเมษายนปี 2566 ซึ่งหาก ANI สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้สำเร็จ จะส่งผลให้ III เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนสายการบินระดับภูมิภาครายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาค

สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Asia GSA (M) เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของ III ภายใต้แนวคิด "Logistics and Beyond" ซึ่งประกอบไปด้วย 4 แนวคิดหลัก ดังนี้

- Beyond Boundary จากผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรระดับแนวหน้าของไทย ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำในระดับภูมิภาค โดยเตรียมความพร้อมการเป็นตัวแทนสายการบินต่างๆ ในระดับภูมิภาค จากปัจจุบันที่เป็นตัวแทนอยู่กว่า 20 สายการบิน

- Beyond Traditional Logistics Service พัฒนาโมเดลธุรกิจและบริการในรูปแบบใหม่ๆ นอกเหนือไปจากบริการเดิม เช่น ธุรกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยานที่ครอบคลุมทั้งสินค้าและผู้โดยสาร ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางรางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

- Beyond Traditional Platform พัฒนาบริการโลจิสติกส์ในรูปแบบออนไลน์ เช่น e-Commerce Enabler, e-Logistics Platform เพื่อรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดอีคอมเมิร์ซ

- Beyond Existing Expertise ต่อยอดการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์เฉพาะทาง

นายทิพย์ กล่าวเสริมว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางอากาศในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางทีดีขึ้น หลังจากการเดินทางทั่วโลกเริ่มมีการผ่อนคลายและเปิดประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะจีน ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประเทศอีกครั้งในปลายปีนี้ ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่สถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนคลี่คลายลง ทำให้บริษัทฯ มีพื้นที่ระวางสินค้าให้บริการได้มากขึ้น จะมีผลต่อผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และต่อเนื่องถึงปี 2566

“บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการในปี 2565 ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย และเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 เนื่องจากสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเริ่มทยอยเปิดการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะจีนคาดว่าจะเริ่มคลายล็อกดาวน์ปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้การขนส่งระหว่างประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น ส่วนแผนลงทุนนั้นยังคงเน้น joint venture(JV) และ Mergers and Acquisitions (M&A) ซึ่งโดยปกติ III จะปิดดีลปีละ 2 ดีล และมองว่าธุรกิจโลจิสติกส์ยังมีอะไรให้ทำต่อเนื่องอีกหลากหลาย” นายทิพย์ กล่าวอย่างมั่นใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น