ท่องเที่ยวเพชรบุรีพลิกฟื้น อัตราเข้าพักเฉลี่ยล่าสุดไม่ต่ำกว่า 50% “พ่อเมืองเพชรบุรี” มั่นใจเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ร้านค้า โรงแรมกลับมาเปิดบริการไม่ต่ำกว่า 80-90% ชี้น้ำมันปรับสูงขึ้นไม่กระทบ เหตุนักท่องเที่ยวบริหารค่าใช้จ่ายได้ดี ด้าน ผอ.สำนักงาน ททท.เพชรบุรี ชูกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง ผนึกทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน อัดอีเวนต์ถี่กระตุ้นตลาดในประเทศ ดึงต่างชาติเข้าไทย เจาะกลุ่มประเทศในแถบยุโรป เผยภาพรวมดีขึ้น ตัวเลขรายได้เข้าสู่อุตฯ ท่องเที่ยวกว่า 5 พันล้าน
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังชะอำ-หัวหินว่า เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีคุณภาพ คือ มีวัยที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวสูงอายุ มีกลุ่มสแกนดิเนียเวีย อังกฤษ เยอรมนี ที่มีวัฒนธรรมที่สูง ชื่นชมธรรมชาติ ชอบความเงียบสงบ ชอบอาหาร เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตลอด ประกอบกับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในแต่ละอำเภอมีความสะดวกมากขึ้น เช่น ชมวิถีชีวิตคนบ้านลาด กับตาลโตนด พืชเศรษฐกิจ จ.เพชรบุรี หรือชมธรรมชาติของพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานที่เป็นแหล่งมรดกโลก เป็นต้น
"ก่อนที่การท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรีจะกลับไปอยู่ก่อนโควิด-19 นั้น คงต้องใช้เวลา แต่จุดเด่นคือ เราฟื้นได้เร็วในแง่ของนักท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่เปิดเมืองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนถึงเดือนเมษายน ปี 65 ทั้งจังหวัดเป็น Blue Zone ส่งผลให้ปริมาณการเข้ามาท่องเที่ยวสูงขึ้นเทียบกับตะวันตกทั้งหมด จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประสบความสำเร็จในแง่ของการกระตุ้นพลิกฟื้นขึ้นมา ตัวเลขการจองห้องพักดีขึ้นมาก เฉพาะตัวเลขครึ่งปีแรกเกินกว่าร้อยละ 50 ซึ่งตนเองได้รายงานต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ถึงภาพรวมการท่องเที่ยว และคาดว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ยอดจองห้องพักจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่องคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ70 ซึ่งภาพรวมตอนนี้ เศรษฐกิจภายในจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น ร้านค้า ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการไม่น้อยกว่าร้อยละ 80-90 เป็นดัชนีชี้วัดถึงความมั่นใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ต่างจากช่วงโควิด-19 ที่สถานการณ์ค่อนข้างยากลำบาก โดยในครึ่งปีหลังจะมีการจัดบิ๊กอีเวนต์อย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรม “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ในวันที่ 23-24 ก.ค. ที่เขื่อนแก่งกระจาน คาดมีนักปั่นเข้าร่วมกว่า 1,000 คน ทำให้เกิดความหนักใจเพราะที่พักในอำเภอแก่งกระจานและอำเภอใกล้เคียงเต็มเกือบทุกแห่ง หรืองานวิ่งมาราธอน" พ่อเมืองเพชรบุรี กล่าวถึงงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
สำหรับประเด็นเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนั้น ข้อมูลที่ได้รับจากนักท่องเที่ยวสามารถบริหารการเงินได้ เพราะได้ผ่านสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รู้จักเลือกห้องพัก เลือกร้านอาหารที่เหมาะสมกับรายได้ ประกอบกับวิถีชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่จะมีการกำหนดโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวร่วมกับครอบครัวอยู่แล้ว ทำให้จังหวัดเพชรบุรี เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกเลือก การเดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ เป็นต้น
กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เพิ่มความถี่จัดอีเวนต์ใหญ่กระตุ้นเดินทางท่องเที่ยว
น.ส.ชมพู มฤศโชติ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเพชรบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 65 เป็นต้นมาเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังจังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะอำเภอชะอำเป็นพื้นที่เป้าหมายแรกๆ ที่จะมีการเดินทางเข้ามา ซึ่งในวันธรรมดาจะมีสัดส่วนที่สูง เนื่องจากยังไม่เปิดการเรียนอย่างเต็มที่ การมาพักจะมาเป็นครอบครัว โรงแรมหลายแห่งในอำเภอชะอำ มีบริการรองรับกลุ่มดังกล่าวอยู่แล้ว มีชายหาดติดทะเล สถานที่พักผ่อนเปิดกว้าง เห็นได้ช่วงวันธรรมดาบางสัปดาห์อัตราการจองห้องพักเกินกว่า 70-80% บางช่วงต้องมีการจองคิวกัน ซึ่ง อ.ชะอำ ติด 1ใน 10 ของการใช้สิทธิในมาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" สูงสุด รวมถึงภาครัฐ และภาคเอกชนสนับสนุนในการเที่ยวด้วยกัน ประกอบกับมาตรการดูแลเรื่องสาธารณสุข ทำให้การจัดงานใหญ่ๆ ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ไม่เกิดคลัสเตอร์เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการจัดงานใหญ่ๆ พร้อมกัน 4 งาน ได้แก่
1.งาน Art of salt โชว์ประติมากรรมจากอุตสาหกรรมนาเกลือจัดที่ อ.บ้านแหลม 2.งาน Amazing Thai Taste Festival Amazing New Chapters @Phetchaburi ชายหาดชะอำ (เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา) 3.งานวิ่งที่เขื่อนแม่ประจันต์ และ 4.งานวิ่งแก่งกระจาน Cross Country จ.เพชรบุรี รวมถึงงานคอนเสิร์ตชายหาด "มิวสิคออนเดอะบีช" ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
"เรามองว่าเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว แต่มีบางโรงแรมที่เปิดมานานแล้ว อาจไม่พร้อมรับโครงการที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งในช่วงปีแรกๆ จะไม่มีกรุ๊ปของการจัดสัมมนาเข้ามา ตอนนี้ สัญญาณของโรงแรมใหญ่ๆ ที่เป็นกลุ่ม พรีเวดดิ้ง จากประเทศอินเดีย ที่เข้ามาจัดงานแต่งในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น"
น.ส.ชมพู กล่าวถึงการขยายสิทธิในมาตรการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4" เพิ่มเป็น 3.5 ล้านสิทธิว่า ถือเป็นการกระตุ้นผู้ประกอบการให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3 นี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
รับมือสงคราม แย่งดีมานด์นักท่องเที่ยว
ผนึกทุกภาคส่วน ปลุกตลาดในประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้ายุโรป
"ทางจังหวัดเพชรบุรีกำลังผลักดันเรื่องของไมล์ซิตี มีหน่วยงานจังหวัด ททท. สมาคมต่างๆ ภาคเอกชน และสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ผลักดันให้ชะอำและหัวหินให้เป็นไมล์ซิตี รองรับกรุ๊ปสัมมนา ส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน และนำจุดเด่นของแก่งกระจานที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก และจังหวัดเพชรบุรี ในเรื่องอาหารจากยูเนสโก มาเป็นจุดขาย ขณะเดียวในตัวเมืองจัดให้มีการนั่งรถรางชมเมือง เราจะเห็นภาพการเที่ยวในตัวเมืองมากขึ้น เป็นการกระจายและเพิ่มความถี่ให้เกิดการเดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มมาอยู่ระดับร้อยละ 70-75 เป็นระดับที่เหมาะสม"
อย่างไรก็ดี การที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการโควิด เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น เราคงต้องนำโจทย์มาวางกลยุทธ์ ซึ่งมีทั้งเรื่องการไปดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย ขณะเดียวกัน ต้องมีมาตรการจูงใจคนไทยเที่ยวในประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น เป็นโจทย์ที่แต่ละหน่วย แต่ภูมิภาค แต่ละทีม ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชนต้องช่วยกัน
อนึ่ง กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว จะนิยมที่ชะอำ-หัวหิน มีมาจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย รวมถึงประเทศโซนยุโรป และมีกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยนิยมเดินทางมาพักผ่อนตลอด
ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์โควิดในจีนยังคงคุมเข้ม และยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนท่องเที่ยวได้อย่างเสรี ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากภูมิภาคยุโรปมากที่สุด 62.4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด คิดเป็นจำนวน 189,533 คน
3 เดือนแรกรายได้ท่องเที่ยวเพชรบุรีกว่า 5,458 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี เดือน มี.ค.2565 ว่า มีผู้เยี่ยมเยือน 725,505 คน +13.66% แบ่งเป็นตลาดในประเทศอยู่ที่ 725,031 คน (+13.63%) และตลาดต่างประเทศ 474 คน (+89.60%) (ข้อมูลอยู่ในช่วงที่รัฐบาลยังคงมีมาตรการเรื่อง Thailand Pass) รายได้จากการท่องเที่ยว 1,913.15 ล้านบาท (-0.42%) มาจากผู้เยี่ยมเยือนในประเทศ 1,911.06 ล้านบาท (-0.43%) และจากตลาดต่างประเทศ 2.09 ล้านบาท (+11.76%) อัตราการเข้าพัก 63.31%
แต่หากประเมินสถานการณ์ประจำเดือน ม.ค.-มี.ค.65 พบว่า ผู้มาเยี่ยมเยือนอยู่ที่ 2,077,670 คน (+58.45%) มีรายได้จากการท่องเที่ยว 5,458.62 ล้านบาท (+36.47%) อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 57.13%
จากตัวเลขสะท้อนให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวใน 3 เดือนแรกของปี 65 เริ่มปรับตัวดีขึ้น ทั้งจำนวนผู้เข้ามาท่องเที่ยวและรายได้ที่กลับมาเป็นบวก โดยกลุ่มหลักจะมาจากตลาดในประเทศเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด แต่มีการคาดการณ์ว่า หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเรื่องโควิด และมีการเปิดประเทศ จะทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี กลับมาคึกคัก โดยสัดส่วนของตลาดต่างประเทศจะมีแนวโน้มที่เติบโตและมีรายได้จากตลาดกลุ่มนี้ที่สูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ปี 2562 การท่องเที่ยวใน จ.เพชรบุรี เติบโตสูง มีตัวเลขสูงถึง 9,094,204 คน (+0.32%) กลุ่มหลักกว่า 90% มาจากกลุ่มคนไทย 8,543,665 คน ส่วนรายได้รวมที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวประมาณ 32,531.44 ล้านบาท (+3.03%) โดยรายได้จากตลาดในประเทศ 27,790.25 ล้านบาท อัตรการเข้าพักอยู่ที่ 69.85% วันพักเฉลี่ย 2.02 วัน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปอยู่ที่ 2,085.30 บาท