หุ้นไทยปิด -0.18 จุด โบรก ฯ ชี้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ,กลุ่มพลังงานต้นน้ำ และหุ้นเหมืองขุด JTS ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงฉุดตลาดตามราคาเหรียญบิทคอยน์ที่ปรับตัวลดลง แม้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเข้ามาช่วยหนุนดัชนีช่วงบ่ายทำให้ปิดลบไม่มาก มองกรอบดัชนีพรุ่งนี้ อาจแกว่งตัวปรับฐานใหม่โดยประเมินแนวรับ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,575 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 20 มิ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -0.18 จุด หรือ -0.01% โดยปิดตลาดที่ 1,559.21 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,962.88 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่จะฟื้นตัวฟื้นตัวขึ้นยืนในแดนบวกได้ในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,563.97 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,549.98 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 674 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 497 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 996 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่านักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,876.71ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +657.95 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,494.48 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -40.19 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,695.24 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,653.82 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,928.80 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,870.50 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,861.40 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCCปิดที่ 360.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ 1.12%
2.GPSCปิดที่66.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.33%
3.AOTปิดที่69.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 2.21%
4.BHปิดที่175.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.86%
5.BGRIMปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 3.65%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEPปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 2.46%
2.JMARTปิดที่52.50 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 5.41%
3.SCBปิดที่103.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 2.83%
4.JMTปิดที่71.75 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 2.71 %
5.BBLปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 1.10%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,151.78 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด หรือ 0.10% ดัชนี SET50 ปิดที่ 946.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.29 จุด หรือ 0.14% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 599.19 จุด ลดลง -3.40 จุด หรือ -0.56%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้วันนี้ปรับตัวลดลงจากแรงขายในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ กลุ่มพลังงานต้นน้ำที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงไปกว่า 6% ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงราคาหุ้น บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น ( JTS ) ปรับตัวลงอย่างหนักตามราคาเหรียญบิทคอยน์ที่ปรับตัวลดลง
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายกลับมายืนในแดนบวกได้ด้วยแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มท่องเที่ยว โดยภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยวเพิ่ม ทั้งปรับพื้นที่ทั่วประเทศเป็นสีเขียว เตรียมยกเลิก Thailand Pass ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. และเตรียมเสนอให้มีการสนับสนุนด้านภาษีสำหรับการจัดประชุม สัมมนา และอีเวนต์ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะถึงนี้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่ามีโอกาสที่จะแกว่งตัวสร้างฐานเพื่อปรับตัวขึ้น โดยยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงด้านนโยบายของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ต่อสภาในวันที่ 22-23 มิ.ย.65 รวมถึงข้อมูลยอดขายบ้านเดือน พ.ค.65 ของสหรัฐ โดยประเมินแนวรับที่ 1,550 จุด และแน้วต้าน 1,575 จุด