หุ้นไทยปิดตลาด -9.49 จุด โบรก ฯ ชี้ ความกังวลธนาคารกลางสหรัฐยังกดดันตลาด ส่งผลให้ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นแตะ 3.45% แม้มีหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินเข้ามาช่วยพยุงตลาด แต่ก็ไม่ช่วยได้มากนัก มองกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แต่หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตลาดน่าจะรีบาวด์ได้ โดยประเมินช่วงดัชนีแนวต้านที่ 1,600-1,605 จุด และแนวรับที่ 1,590 และ 1,580 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -9.49 จุด หรือ -0.59% โดยปิดตลาดที่ 1,593.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,928.67 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนี SET INDEX เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเล็กน้อยในช่วงเช้า ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลดลงเข้าสู่แดนลบช่วงบ่าย โดยระหว่างวัน ดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,606.31 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,589.28 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 585 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 519 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,105 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,416.97 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,691.23 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +63.43 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +662.32 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,486.38 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,356.73 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,343.71 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,199.78 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,058.09 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BANK ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 1.69%
2.BLปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 1.49%
3.BH ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 1.16%
4.CL ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 3.57%
5.SCB ปิดที่ 109.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 1.40%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 169.00 บาท ลดลง 4.50 บาทหรือ 2.59%
2.ADVANC ปิดที่ 206.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.44%
3.KTC ปิดที่ 58.25 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 2.51%
4.GLOBAL ปิดที่ 19.60 บาท ลดลง 1.40 บาทหรือ 6.67%
5.SCC ปิดที่ 358.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.28%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,197.04 จุด ลดลง -9.06 จุด หรือ -0.41% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 965.91 จุด ลดลง -4.78 จุด หรือ -0.49% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 614.03 จุด ลดลง -4.76 จุด หรือ -0.77%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงจากนักลงทุนกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตรา 0.75% ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นแตะ 3.45% และค่าเงินบาทวันนี้อ่อนค่าแตะ 35 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะส่งออกอาหารในวันนี้ มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ PTT PTTEP หลังราคาขึ้นไปมากก็มีการขายทำกำไรระยะสั้น ขณะที่มีแรงซื้อกลุ่มแบงก์ที่ช่วยพยุงตลาดไม่ให้ตลาดปรับลงไปมาก
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่ามีโอกาสรีบาวด์ โดยเห็นว่าเฟดคงไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่า 0.75% จึงมองว่าเป็น upside risk มากกว่า downside risk โดยคาดว่าหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แต่หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตลาดน่าจะรีบาวด์ได้ โดยให้แนวรับที่ 1,590 และ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,600-1,605 จุด