หุ้นไทยพลิกกลับมาปิด +2.97 จุด หลังวานนี้ปรับตัวลดลงแรง โบรก ฯ ชี้หุ้นฟื้นตามปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของดาวโจนส์ฟิวเจอร์ แต่อยู่ในวงจำกัด แนะจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ วันที่ 14-15 มิ.ย. ประเด็นมาตรการดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้ แนวต้านที่ 1,605-1,615 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,590 จุด และ 1,580 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 มิ.ย. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.97 จุด หรือ +0.19% โดยปิดตลาดที่ +1,603.03 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 63,139.45 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,605.53 จุด ขณะเดียวกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,590.75 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 675 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 573 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 957 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +514.98 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +97.49 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +12.61 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -625.08 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,193.30 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
2.IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,713.70 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,702.03 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,674.26 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,563.24 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.97%
2.IVL ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.54%
3.JMT ปิดที่ 73.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 2.09 %
4.PTTGC ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.21%
5.TOP ปิดที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.87%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ1.45%
2.AEONTS ปิดที่ 176.50 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 0.84%
3.SCC ปิดที่ 359.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.28%
4.SCGP ปิดที่ 54.75 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ 1.35%
5.MINT ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.45%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,206.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ 0.25% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 970.69 จุด เพิ่มขึ้น 1.94 จุด หรือ 0.20% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 618.79 จุด ลดลง -2.32 จุด หรือ -0.37%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงไปทดสอบที่ระดับ 1,590 จุด ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งจากที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงไปทดสอบที่ระดับ 1,580 จุด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของดาวโจนส์ฟิวเจอร์ แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.ซึ่งจะรู้ผลคืนพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ขณะนี้นักลงทุนเริ่มมีมุมมองในทิศทางเดียวกันว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ที่ระดับ 0.75% แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากมีความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและจะมีการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไปอีก ก็จะเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันให้ดัชนีกลับมาพักตัวลงต่อได้
อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบเพื่อที่จะรอติดตามผลการประชุ่มเฟด และ ถ้อยแถลงของประธานเฟด โดยให้แนวรับที่ 1,590 จุด และ 1,580 จุด แนวต้าน 1,605-1,615 จุด