หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -1.71 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนยังกังวลสถานการณ์หุ้นกลุ่มพลังงาน หลังภาครัฐขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันแบ่งกำไรค่าการกลั่นเพื่อช่วยบรรเทาภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ซึ่งยังไม่มีหลักเกณฑ์และความชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไร พร้อมประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,580-1,590 จุด และแนวรับไว้ที่ 1,500-1,530 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ปรับตัวลดลง -1.71 จุด หรือ -0.11% โดยปิดตลาดที่ 1,559.39 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 101,339.12 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนี SET INDEX มีการปรับตัวผันผวนขึ้นลง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,567.82 จุด ขณะที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,544.26 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 714 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 548 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 954 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,537.59 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +1,011.11 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,937.28 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,611.43 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,553.41 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,998.87 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,317.47 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
4.TOP มูลค่าการซื้อขาย 3,197.50 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 3.75 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,125.82 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.STGT ปิดที่ 17.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.59%
2.TRUE ปิดที่ 4.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท หรือ 4.98%
3.VGI ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาทหรือ 4.94%
4.GPSC ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 4.88%
5.DTAC ปิดที่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.71%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SPRC ปิดที่ 11.30 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือ9.60%
2.ESSO ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 1.10 บาท หรือ9.32%
3.BCP ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ9.30%
4.TOP ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือ7.04%
5.IVL ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ5.47%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,149.66 จุด ลดลง -0.91 จุด หรือ -0.04% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 945.05 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด หรือ 0.02% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 602.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด หรือ 0.43%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน จากความเสี่ยงการดึงสภาพคล่องกลับทั่วโลก และรอประเมินสถานการณ์ของกลุ่มพลังงาน หลังภาครัฐขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันให้นำส่งกำไรค่าการกลั่นเพื่อช่วยบรรเทาภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และมีรายละเอียดอย่างไร
ขณะที่มองระดับ 1,530-1,550 จุด เป็นโซนซื้อเพื่อลงทุนในระยะกลางยาว เนื่องจาก P/E ค่อนข้างถูก โดยแนะลงทุนในหุ้นสัดส่วน 5-50% ของพอร์ต
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดน่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ แนะให้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน มิ.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ พร้อมประเมินแนวรับไว้ที่ 1,500-1,530 จุด และแนวต้าน 1,580-1,590 จุด
