“คอยน์เบส” สร้างประวัติศาสตร์ บริษัทคริปโตฯ แห่งแรกในฟอร์จูน500

คอยน์เบส โกลบัล กลายเป็นบริษัทคริปโตฯ แห่งแรกที่ได้เข้าสู่ทำเนียบ “ฟอร์จูน 500” ประจำปี 2022 ด้วยรายได้และกำไรทะลักทลายในปีที่ผ่านมา แม้ขณะนี้สถานการณ์จะพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ตาม

ทุกปี ฟอร์จูน 500 จะรวบรวมรายชื่อบริษัทใหญ่สุด 500 แห่งของอเมริกาในแง่รายได้ โดยปีนี้เป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่มีบริษัทคริปโตฯ ติดมาด้วยคือ คอยน์เบส กระดานเทรดคริปโตฯ ใหญ่ที่สุดในอเมริกา

จากข้อมูลของฟอร์จูน 500 ประจำปี 2022 คอยน์เบสติดอันดับ 437 ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดคริปโตฯ โดยรวมล่มซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทคริปโตฯ มากมาย และคอยน์เบสก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่กำลังพยายามฝ่าฟันเพื่อความอยู่รอดในภาวะตลาดหมี

ทั้งนี้ การที่คอยน์เบสสามารถเข้าสู่ทำเนียบฟอร์จูน 500 สืบเนื่องจากการจัดอันดับอิงกับรายได้ในปี 2021

ภายใต้การนำของไบรอัน อาร์มสตรอง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) คอยน์เบสกวาดรายได้ในปีการเงิน 2021 ไปทั้งสิ้นกว่า 7,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 513.7% ขณะที่กำไรพุ่งขึ้นถึง 1024.4%

หากปี 2021 เป็นปีทองของคอยน์เบส ปี 2022 ต้องถือเป็นช่วงเวลาแห่งความมืดมน บริษัทคริปโตฯ แห่งนี้รายงานว่า มีรายได้สุทธิในไตรมาสแรกปีนี้ 1,160 ล้านดอลลาร์ ลดฮวบจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาที่ทำได้ถึง 2,490 ล้านดอลลาร์ มิหนำซ้ำยังมียอดขาดทุนสุทธิถึง 430 ล้านดอลลาร์

และขณะที่ตลาดคริปโตฯ ร่วงไม่หยุด ราคาหุ้นคอยน์เบสช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็หล่นตามจนเกือบทำสถิติต่ำสุดตลอดกาลที่ราว 65 ดอลลาร์ และลดลงถึง 88% จากราคาเริ่มต้นมาอยู่ที่ราว 40 ดอลลาร์เมื่อต้นเดือน

สถานการณ์ล่าสุดในตลาดคริปโตฯ ทำให้มิซูโฮ ซีเคียวริตี้ส์ ประกาศลดการคาดการณ์รายได้ของคอยน์เบสตลอดปีนี้ลงจากที่เคยคาดไว้ที่ 6,700 ล้านดอลลาร์ เหลือ 5,600 ล้านดอลลาร์

เอมิลี ชอย ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของคอยน์เบส ยังยอมรับว่า จากแผนการเดิมเมื่อต้นปีที่จะขยายธุรกิจอีก 3 เท่า มาตอนนี้บริษัทคิดว่าควรระมัดระวังมากขึ้นและชะลอการว่าจ้างพนักงานใหม่ออกไปก่อน รวมถึงคงต้องประเมินความต้องการพนักงานใหม่เทียบกับเป้าหมายธุรกิจสำคัญที่สุดของบริษัท

จากการประกาศอย่างเป็นทางการ ฟอร์จูนระบุว่า เกณฑ์รายได้สำหรับการรวบรวมรายชื่อฟอร์จูน 500 ประจำปี 2022 อยู่ที่ 6,400 ล้านดอลลาร์ และบริษัททั้งหมดในตารางมีรายได้รวมกัน 16.1 ล้านล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 17%) หรือเท่ากับ 2 ใน 3 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของอเมริกา อีกทั้งยังจ้างงาน 29.7 ล้านตำแหน่งทั่วโลก

ที่น่าสนใจคือ บริษัท 44 แห่งในฟอร์จูน 500 บริหารโดยซีอีโอหญิง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดที่เคยมีมา ข้อมูลยังระบุว่า วอลมาร์ทยึดอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 10 ด้วยรายได้ 572,754 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.4% จากปี 2020 แอมาซอนตามมาเป็นอันดับ 2 โดยมีรายได้ 469,822 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.7% อันดับ 3 เป็นของแอปเปิลด้วยรายได้ 365,817 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33.3%