หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -1.05 จุด โบรก ฯ ชี้นักลงทุนเทขายปรับลดความเสี่ยง รอฟังผลประชุม FOMC ประเมินกรอบขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ที่ 0.5-0.75% และการลดขนาดงบดุลเดือน มิ.ย. ตลอดจนถึงการกำหนดนโยบายการเงินเชิงรุกซึ่งอาจเป็นผลดีต่อตลาด พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 25 พ.ค. 2565 ปรับตัวลดลง -1.05 จุด หรือ -0.06% โดยปิดตลาดที่ 1,625.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,005.40 ล้านบาท โดยภาพรวมหุ้นวันนี้ช่วงเช้าปรับตัวอยู่ในแดนบวกก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,640.69 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,624.03 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 605 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 638 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 995 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า-1,495.66 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,025.29 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +90.00 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +380.37 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,795.02 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,866.34 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,673.98 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,664.74 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,655.25 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 364.00 บาทเพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.83 %
2.JMART ปิดที่ 58.50 บาทเพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 4.93 %
3.EGCO ปิดที่ 178.00 บาทเพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.14 %
4.KEX ปิดที่ 22.10 บาทเพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือ 8.33 %
5.JMT ปิดที่ 75.50 บาทเพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.68 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.79 %
2.SCB ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.25 %
3.KBANK ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.38 %
4.KCE ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.99 %
5.BLA ปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.63 %
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,222.48 จุด ลดลง -3.31 จุด หรือ -0.15% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 977.46 จุด ลดลง -2.10 จุด หรือ -0.21% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 641.64 จุด เพิ่มขึ้น 6.77 จุด หรือ 1.07%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน โดยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นไปกว่า 10 จุด ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และช่วงบ่ายดัชนีฯ ได้ลดช่วงบวกลงจนถึงปรับตัวเป็นลบ เนื่องจากนักลงทุนลดความเสี่ยงก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC หรือ Fed Minutes ในคืนวันนี้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดว่า ขึ้นอยู่กับทิศทางรายงานการประชุม FOMC ว่าจะมีการส่งสัญญาณอย่างไร ซึ่งตลาดจับตาดูใน 2 เรื่อง คือ เรื่องของดอกเบี้ย จะมีการเปิดช่องให้ขึ้นดอกเบี้ยมากน้อยเพียงใด โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.5-0.75% และการลดขนาดงบดุลเดือนมิ.ย. หากออกมาไม่ได้มีการเข้มงวดการใช้นโยบายการเงินเชิงรุกมากนัก มองจะเป็นผลดีต่อตลาด แต่หากมีการใช้นโยบายเข้มงวด จะส่งผลให้ดัชนีฯ พักฐานลงมา เบื้องต้นคาดบริเวณ 1,600 จุด ขณะที่หากไม่มีการใช้นโยบายเข้มงวด ให้แนวรับไว้ที่ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด