หุ้นไทยปิดตลาด +5.84 จุด โบรก ฯ ชี้ หุ้นรับอานิสงส์เศรษฐกิจจากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ จากหุ้นกลุ่มขนส่งและการท่องเที่ยวที่มีแรงซื้อเข้ามา รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันในระดับสูงยังช่วยหนุน พร้อมประเมินกรอบการลงทุนโดยประเมินแนวรับที่ 1,600-1,605 จุด และแนวต้านที่ 1,625-1,630 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 พ.ค. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.84 จุด หรือ +0.36% โดยปิดตลาดที่ 1,620.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,889.75 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ มีการปรับตัวเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงในแดนลบสลับแดนบวกในช่วงของการซื้อขายภาคเช้า ก่อนที่จับตัวขึ้นมาในแดนบวกในภาคบ่าย โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,622.17 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,607.31 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,042 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 539 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 712 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,496.49 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +843.95 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -4,169.11 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -171.33 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,683.51 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,930.72 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,753.33 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,451.45 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,250.61 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 190.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.60%
2.EGCO ปิดที่ 177.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.43%
3.SCB ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.85%
4.SCC ปิดที่ 363.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.55%
5.HANA ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.23%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 172.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.43%
2.CENTEL ปิดที่ 40.25บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.01%
3.JMT ปิดที่ 75.00 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.32%
4.DTAC ปิดที่ 44.25บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 1.12%
5.MEGA ปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 0.93%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,222.38 จุด เพิ่มขึ้น 15.77 จุด หรือ 0.71% ดัชนี SET50 ปิดที่ 977.01 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด หรือ 0.67% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 621.79 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด หรือ 0.58%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน หลังจากที่ภาคเช้าปรับขึ้นไปแล้วย่อตัวลงมา และภาคบ่ายดัชนีเริ่มรีบาวด์กลับมายืนในแดนบวก โดยที่มองว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการเริ่มกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศมากขึ้น โดยที่จะเห็นว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองและการเดินทางท่องเที่ยวมีแรงซื้อเข้ามา และยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงช่วยหนุนดัชนี ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ หลังจากที่รับรู้ปัจจัยต่างๆไปมากแล้ว รวมถึงยังมีปัจจัยที่ยังต้องติดตามในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังอาจจกดดันตลาดได้ หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนที่ออกมายังเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยประเมินแนวรับที่ 1,600-1,605 จุด และแนวต้านที่ 1,625-1,630 จุด