SET INDEX ปิดตลาด -9.05 จุด โบรก ฯ ชี้เกิดแรงเทขายช่วงท้ายบ่ายก่อนปิดตลาด หลังนักลงทุนตอบรับข่าวสหรัฐกำลังพิจารณาปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปแล้ว ซึ่งจากแรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเข้ามาประคอง ทำให้ตลาดไม่ติดลบลงไปมาก คาดพรุ่งนี้ยังคงแกว่งตัวต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดยังคงกังวลจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ และทิศทางการรายงานผลการประชุม FOMC โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,643 จุด และแนวรับที่ 1,620 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 พ.ค. 2565 ปรับตัวลดลง -9.05 จุด หรือ -0.55% โดยปิดตลาดที่ 1,626.23 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 63,643.09 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นไทยในวันนี้มีการแกว่งตัวในแดนบวกสลับแดนลบในช่วงเช้า ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอยู่ในแดนลบช่วงการซื้อขายภาคบ่ายก่อนจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,636.97 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงตำสุดที่ 1,625.93 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 578 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 516 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,111หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,004.75 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +191.61 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +500.69 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +312.45 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,718.59 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,307.37 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,241.58 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,148.80 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,900.60 ล้านบาท ปิดที่ 111.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,225.79 จุด ลดลง -15.19 จุด หรือ -0.68% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 979.56 จุด ลดลง -7.38 จุด หรือ -0.75% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 634.87 จุด เพิ่มขึ้น 6.95 จุด หรือ 1.11%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ โดยช่วงท้ายตลาดมีการเทขายออกมา หลุด 1,630 จุดลงมาเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังนักลงทุนได้ตอบรับปัจจัยบวก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปแล้ว แต่ก็ยังมีปัจจัยหนุนจากในประเทศ เกี่ยวกับพัฒนาการเชิงบวกจากการท่องเที่ยวทำให้ดัชนีฯ ปรับตัวลงไม่มาก
"นักลงทุนควรจับตาดูการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ และการปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปลายสัปดาห์นี้"
ขณะที่แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวในกรอบประมาณ 1,630 จุด เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อส่วนบุคคลหรือ Core PCE ของเดือน เม.ย.และรายงานการประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา ให้แนวรับไว้ที่ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,643 จุด