หุ้นไทยปิดตลาดร่วงแรง -25.09 จุด โบรก ฯ ชี้ปรับตัวในทิศทางลง เป็นไปตามภูมิภาค จากความตึงเครียดในแรงกดดันการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อสกัดปัญหาอัตราเงินเฟ้อ และกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดพรุ่งนี้ยังคงแกว่งตัว พร้อมประเมินทิศทางการลงทุนในแนวรับที่ 1,595-1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,620-1,625 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ปิดตลาดปรับตัวลดลง -25.09 จุด หรือ -1.54% โดยปิดตลาดที่ 1,604.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,607.55 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ หุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,624.26 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,604.06 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 305 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 255 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,570 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิกว่า -8,347.32 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -430.56 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +7,284.14 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,493.74 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,225.09 ล้านบาท ปิดที่ 110.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
2.TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,864.71 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,855.15 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,785.25 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,734.14 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SPRC ปิดที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.82%
2.TTA ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 1.55%
3.TU ปิดที่ 16.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.22%
4.OR ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 1.00%
5.TOP ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.86%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TRUE ปิดที่ 4.28 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 6.55%
2.AMATA ปิดที่ 18.20 บาท ลดลง 1.10 บาท หรือ 5.70%
3.TQM ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 5.95%
4.STGT ปิดที่ 19.30 บาท ลดลง 1.10 บาท หรือ 5.39%
5.ACE ปิดที่ 2.88 บาท ลดลง 0.16 บาท หรือ 5.26%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,172.44 จุด ลดลง -32.08 จุด หรือ -1.46% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 954.33 จุด ลดลง -12.46 จุด หรือ -1.29% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 605.15 จุด ลดลง -22.63 จุด หรือ -3.60%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยที่ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ตลาดยังคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าประธานเฟดจะมีการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อนที่ 0.50% ประกอบกับยังมีความกังวลความยืดเยื้อของสงครามรัสเซียและยูเครที่ยืดเยื้อมากว่า 2 เดือน เป็นแรงกดดันต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ยังคงต้องรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯในคืนวันพุธที่จะถึงนี้ หากออกมามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ราว 8% อาจจะส่งผลกดดันตลาดให้แกว่งตัวลงได้ต่อ เพราะมีความเป็นไปได้จากการที่เฟดจะปรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงในการประชุมครั้งถัดไปให้แนวต้านที่ 1,620-1,625 จุด แนวรับ 1,595-1,600 จุด