ตลาดหุ้นไทยปิด -0.30 จุด โบรกฯ ชี้นักลงทุนรอลุ้นการประชุมเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือไม่หลัง GDP ไตรมาส 1/65 หดตัวถึง 1.4% หวังเฟดไม่ใช้มาตรการเข้มดอกเบี้ยนโยบายการเงิน พร้อมประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวต้านที่ 1,670-1,675 จุด และแนวรับที่ 1,650 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 เมษายน 2565 ปรับตัวลดลง -0.30 จุด หรือ -0.02% โดยปิดตลาดที่ 1,667.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,402 ล้านบาท ระหว่างหว่างวัน ดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,673.54 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,666.84 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 730 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 525 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 730 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,243.71 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -174.09 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +486.77 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +931.02 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,728.65 ล้านบาท ปิดที่ 370.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,402.36 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,386.17 ล้านบาท ปิดที่ 12.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,216.63 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,882.52 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CENTEL ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น +2.25 บาท หรือ +5.08%
2.TQM ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท หรือ +3.65%
3.TIDLOR (XD) ปิดที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท หรือ +2.80%
4.SCC ปิดที่ 370.00 บาท เพิ่มขึ้น +10.00 บาท หรือ +2.78%
5.STA ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.65 บาท หรือ +2.64%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TISCO (XD) ปิดที่ 90.75 บาท ลดลง -8.75 บาท หรือ -8.79%
2.BAM (XD) ปิดที่ 19.20 บาท ลดลง -0.80 บาท หรือ -4.00%
3.CHG ปิดที่ 3.90 บาท ลดลง -0.12 บาท หรือ -2.99%
4.MINT ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง -1.00 บาท หรือ -2.78%
5.BH ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง - 4.50 บาท หรือ -2.73%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,250.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.25 จุด หรือ 0.06% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 983.56 จุด เพิ่มขึ้น 0.02 จุด หรือ 0.00% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 669.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ 0.33%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน ระหว่างรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ค.ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด 0.50% หรือไม่ เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจชะลอใช้นโยบายทางการเงินเข้มงวดหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/65 หดตัว 1.4% จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 1.1%
ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับลงจากแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้นโยบายทางการเงินเข้มงวด ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการลดขนาดงบดุล ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเรามีวันหยุดกลางสัปดาห์ด้วย โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,670-1,675 จุด และแนวรับที่ 1,650 จุด