"ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป" กำไรงสดนี้ 172 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ธุรกิจหลักโตแกร่ง เบาะหนังรถยนต์ไปได้สวย และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่บอร์ดใจดีปันผล 0.0535 บาท/หุ้น พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่าไม่เกิน 200 ล้านบาท ขายผู้ถือหุ้นเดิม พ่วงฟรี CWT-W6 นำเงินต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต ปีนี้เตรียมสยายปีกธุรกิจดิจิทัล ลุยสร้างเหมืองขุดบิตคอยน์จากการใช้พลังงานหมุนเวียน หวังสร้าง New S Curve ผลักดันผลงานออลไทม์ไฮต่อเนื่อง
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2564 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 1,755.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.14 ล้านบาท หรือ 12.08% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,566.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 172.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.12 ล้านบาท หรือ 47.10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 117.03 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักคือธุรกิจหนังที่ยังคงมั่นคงต่อเนื่อง รายได้จากการขายสำหรับเบาะรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนการผลิตรถตามรุ่นที่ได้รับ และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเป็นไปตามจำนวนเมกะวัตต์ที่บริษัทได้รับรวม 14 เมกะวัตต์ ประกอบกับด้วยการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ”
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.0535 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 33,710,517.35 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 มีนาคม 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565
ประกอบกับมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 200,000,000 บาท ราคาเสนอขาย 1,000 บาทต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะนำเงินที่ได้รับใช้เป็นเงินลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจปัจจุบัน ตลอดจนธุรกิจในอนาคต เช่น กลุ่มธุรกิจพลังงานหรือกลุ่มธุรกิจที่ต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีและสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวขึ้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ
นอกจากนี้ มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 6 (CWT-W6) จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพต่อ 600 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 6 ซึ่งมีอายุ 1 ปี 6 เดือน และมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 5.00 บาทต่อหุ้น
รวมทั้งได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียน 177,142,858 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 177,142,858 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 57,142,858 หุ้น และการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 6 (CWT-W6) จำนวน 120 ล้านหุ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าเข้าสู่โลกดิจิทัล โดยอยู่ระหว่างศึกษาการนำกำลังการผลิตส่วนเกินที่เหลืออยู่ของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อนำมาใช้เป็น Green Bitcoin Mining ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับนโยบาย Net Zero ตามเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ให้มีสัดส่วนของพลังงานที่ใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัลที่ไม่ก่อมลพิษเพิ่มให้กับโลกเรา ทั้งยังมีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ต่ำกว่าซื้อจากการไฟฟ้าและลดการใช้ทรัพยากรของส่วนรวมได้ โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของโครงการภายในปีนี้