การลงทุนตั้งเหมืองขุดคริปโต หรือเงินสกุลดิจิทัลกำลังเป็นแฟชั่นยอดฮิตของบริษัทจดทะเบียน หลายบริษัทประกาศทุ่มงบก้อนโต ประกาศความฝันอันบรรเจิด จะโกยรายได้จากการขุดเงินดิจิทัล
แต่ยังไม่มีใครรับประกันว่า บริษัทจดทะเบียนที่ตามแห่ตั้งเหมืองขุดคริปโต เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่ และจะทำให้ผลประกอบการบริษัทเติบโตสูงเพียงใด ขณะที่ราคาหุ้นทุกบริษัทที่ประกาศตั้งเหมืองพุ่งทะยานอย่างร้อนแรงไปแล้ว
การตั้งเหมืองขุดคริปโต กำลังเป็นเครื่องมือชิ้นใหม่ของบริษัทจดทะเบียนในการปลุกผีราคาหุ้น จนตลาดหลักทรัพย์ต้องออกประกาศเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหุ้นที่ประกาศตั้งเหมืองขุดคริปโต ควบคู่กับการใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย
เพราะหุ้นบริษัทที่เปิดตัวตั้งเหมืองขุดคริปโต ถูกลากขึ้นนับร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งที่บางบริษัทผลประกอบการยังขาดทุน
บริษัทจดทะเบียนที่ประกาศตั้งเหมืองขุดคริปโตมีจำนวนทั้งสิ้น 6 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA บริษัท โคแมนซี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN และบริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ซึ่งเพิ่งประกาศล่าเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การประกาศลงทุนตั้งเหมือนขุดคริปโตของ UPA จุดพลุการเก็งกำไร มีการไล่ราคาจนพุ่งขึ้นชนเพดานสูงสุดในวันเดียวกันที่แจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ โดยราคาหุ้นปิดที่ 59 สตางค์ เพิ่มขึ้น 13 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 28.26% ขณะที่หุ้น ZIGA และ ECF ก็ถูกลากขึ้นไปชนเพดานสูงสุด 30% เช่นเดียวกัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่งออกประกาศเตือนผู้ถือหุ้น JTS ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อลงมติอนุมัติการลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์วงเงินประมาณ 3,300 ล้านบาท
เพราะบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ เห็นว่า การลงทุนเหมืองขุดบิตคอยน์มีความเสี่ยง และมีตัวแปรมากมายที่ JTS ไม่อาจควบคุมได้ นอกจากนั้น บิตคอยน์ยังไม่มีพื้นฐานราคาที่ชัดเจน จึงเสนอแนะผู้ถือหุ้นไม่ควรลงมติอนุมัติการลงทุนเหมืองขุดบิตคอยน์
บริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระได้ศึกษาบิตคอยน์อย่างรอบด้าน และมีมุมมองว่า เป็นการลงทุนที่เลื่อนลอย ไม่สามารถคำนวณถึงผลตอบแทนที่แน่ชัดได้ รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อเงินลงทุน
สิ่งที่บริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ JTS สะท้อนออกมา น่าจะเป็นข้อมูลที่กระตุ้นให้นักลงทุนระมัดระวังหุ้นที่กำลังปั้นข่าวขุดคริปโต
แต่นักลงทุนบางส่วนกลับวิ่งเข้าใส่ ตามแห่เก็งกำไรโดยไม่กลัวตาย ทั้งที่หุ้นหลายตัวตกอยู่ในสภาพตายซาก บางบริษัทเคยมีพฤติกรรมการปั่นหุ้น บางบริษัทกิจการย่ำแย่ และผลประกอบการขาดทุน
กระแสเหมืองขุดคริปโตกำลังเข้าสิงนักลงทุนจึงลืมตาย เข้าไปแลกหมัดวัดดวงกับหุ้นที่โหนกระแสคริปโตกันจนฝุ่นตลบ
บริษัทจดทะเบียนมีเกือบ 1,000 บริษัท และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดไม่น่าจะโง่ หรือคิดไม่เป็น โดยหากการตั้งเหมืองขุดคริปโตดีจริง สามารถสร้างรายเป็นกอบเป็นกำให้บริษัท ทำไมบริษัทจดทะเบียนทั้งหมจึงไม่ประกาศทุ่มเงินลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์
และบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่นับร้อยแห่งมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ได้ทันทีนับหมื่นๆ เครื่อง ทำไมจึงไม่ลงทุนตั้งเหมืองบิตคอยน์เหมือนบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กที่ฐานะทางการเงินและผลประกอบการอ่อนแอ
บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่อาจศึกษาแล้วเห็นว่า เหมืองขุดคริปโต ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะช่วยให้ผลประกอบการบริษัทเติบโตได้ และไม่น่าปลุกบริษัทที่อยู่ในสภาพตายซาก ฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นบริษัทที่มีอนาคตสดใส จึงไม่สนใจที่จะลงทุนขุดคริปโต
6 บริษัทที่ตามแห่กันตั้งเหมืองขุดคริปโต นักลงทุนน่าจะตั้งคำถามว่า ผลตอบแทนจากคริปโตจะคุ้มค่าเงินลงทุนหรือไม่ และจะปลุกให้บริษัทจดทะเบียนที่ตกอยู่ในสภาพตายซาก ฟื้นคนชีพสู่ความสดใสได้จริงหรือ
หรือการประกาศตั้งเหมืองขุดคริปโต เป็นเพียงแค่การปลุกผีเพื่อปั่นราคาหุ้นเท่านั้น