ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนระมัดระวัง ก่อนเข้าซื้อขายหุ้น บจ.ที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หลังพบราคาหลักทรัพย์พุ่งต่อเนื่อง เพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลท.พบหลักทรัพย์ที่มีสารสนเทศเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง กล่าวคือ ราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (%Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง แม้บริษัทจดทะเบียนจะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มิได้มีสารสนเทศ หรือพัฒนาการที่สำคัญเพิ่มเติมจากที่เคยแจ้งมาแล้ว ตัวอย่างเช่น หลักทรัพย์ บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ราคาเพิ่มขึ้น 89% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,970 ล้านบาท/วัน %Daily Average Turnover Ratio อยู่ที่ 44%
นอกจากนั้น หลักทรัพย์ บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) ราคาเพิ่มขึ้น 27% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 363 ล้านบาท/วัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น JTS ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้
สำหรับการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้ (14 ก.พ.65) ตลท.ยังคงพบการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นของราคา มูลค่าการซื้อขายในอีกหลายหลักทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) ได้แก่ หลักทรัพย์ ZIGA (ราคาขึ้นไปที่ Ceiling และไม่มีเหลือคำเสนอขาย (offer) ที่ตั้งรอ มูลค่าซื้อขาย 1,850 ล้านบาท) หลักทรัพย์ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) (ราคาเพิ่มขึ้น 23.91% มูลค่าซื้อขาย 1,064 ล้านบาท)
หลักทรัพย์ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) (ราคาเพิ่มขึ้น 20.00% มูลค่าซื้อขาย 783 ล้านบาท) และหลักทรัพย์ บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) (ราคาเพิ่มขึ้น 12.90% มูลค่าซื้อขาย 487 ล้านบาท) เป็นต้น ในขณะที่ SET และ mai Index ปรับตัวลดลง 0.77% และ 0.94% ตามลำดับ
ตลท.จึงขอเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย โดยขอให้ศึกษาข้อเท็จจริง และความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อขาย นอกจากนี้ ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์