แม้ตลาดหุ้นจะทรุดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ดัชนีหุ้นสามารถประคับประคองตัวเหนือระดับ 1,600 จุดได้ เพราะแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ปักหลักซื้อ พยุงหุ้นไม่ให้เกิดความผันผวนรุนแรง ท่ามกลางปัจจัยลบที่กระหน่ำรอบด้าน
วันอังคารที่ผ่านมา ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ดัชนีหุ้นร่วงแรงถึงประมาณ 16 จุด โดยถอยไปที่ระดับ 1,624 จุด แต่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ผลักดันให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง และดึงให้ดัชนีหุ้นดีกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,639.09 จุด ลดลงเพียง 1.45 จุด
แรงซื้อที่ไหลทะลักเข้ามาในกลุ่มธนาคาร คาดว่าจะเป็นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะนักลงทุนในประเทศมียอดขายหุ้นสุทธิทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบันหรือกองทุน พอร์ตโบรกเกอร์และนักลงทุนรายย่อย มีเพียงต่างชาติที่ซื้อหนัก 3,421.04 ล้านบาท
นักลงทุนในประเทศช่วงนี้ปรับกลยุทธ์มาสู่การขาย ระบายหุ้นออกเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้าน โดยนอกเหนือจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ เข้ามาซ้ำเติมอีก
สถานการณ์การเมืองภายในประเทศไม่น่าไว้วางใจ หลังจากพรรคพลังประชารัฐขับ ส.ส.21 คน กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เร็วกว่าความคาดหมาย ไม่อาจประเมินได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกเพียงใด
แต่นักลงทุนทั้งโลกเกิดความหวั่นไหว พากันชะลอการลงทุน และบางส่วนชิงเทขายหุ้นออก ซึ่งทำให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงมาราธอนนับสัปดาห์
และสถานการณ์ที่กำลังเฝ้าจับตาด้วยความระทึกกันอยู่คือ ภาวะสงครามในยูเครน ซึ่งไม่รู้ว่าจะระเบิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าเกิดขึ้น หุ้นทั่วโลกจะปั่นป่วนทันที
ปัจจัยลบที่กระหน่ำใส่น่าจะฉุดดัชนีหุ้นจนทรุดหนัก และถอยไปตั้งหลักแถวระดับ 1,600 จุด แต่เป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติทำหน้าที่เป็นกองหนุน ส่งคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ดัชนีจึงมีลักษณะแกว่งตัวลงในกรอบแคบๆ เท่านั้น
แม้ว่ากองทุนในประเทศจะถล่มขายไม่เลิกก็ตาม
ต่างชาติหวนกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และซื้อต่อเนื่องนับจากต้นปี โดยมียอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมรวมทั้งสิ้น 14,944.84 ล้านบาท หลังจากปีที่แล้วขายหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 4.85 ล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนในประเทศหวั่นไหวในความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น และเน้นในการขาย เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ แต่ต่างชาติกลับซื้อสวนทาง และดูเหมือนจะไม่กังวลกับข่าวร้ายรอบด้าน
การไล่ซื้อหุ้นไม่เลิก แสดงว่าต่างชาติมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ไม่กลัวความผันผวน ไม่รอหุ้นลงจึงเข้ามาช้อนเก็บ
ไม่มีใครสามารถให้คำอธิบายที่ชัดเจนได้ว่า ท่ามกลางสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ทั้งสถานการณ์สงครามในยูเครน การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปัญหาโควิด หรือแม้แต่การเมืองภายในที่ไม่นิ่ง
แต่ทำไมต่างชาติจึงไล่ซื้อหุ้นและมีมุมมองที่ดีอย่างไรสำหรับตลาดหุ้นไทย ซึ่งถ้ารู้เหตุผลการไล่เก็บหุ้นของต่างชาติได้จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้
แต่เมื่อไม่รู้ว่าเหตุใดฝรั่งจึงซื้อไม่เลิก คงต้องปล่อยให้ฝรั่งลุยไปก่อน และไม่ควรไล่ซื้อตามฝรั่ง
เพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นยังไม่น่าไว้วางใจ ถ้าสหรัฐฯ ประกาศขึ้นดอกเบี้ย สงครามยูเครนระเบิด ดัชนีอาจปักหัวลงสู่ระดับ 1,600 จุด
อดใจรอให้ตลาดหุ้นนิ่ง รอให้ข่าวร้ายสงบลงสักหน่อย อาจมีโอกาสเก็บหุ้นต้นทุนต่ำๆ สะสมในพอร์ต
