"ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่" เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ทุ่มงบลงทุน 500-600 ล้านบาท ลุยธุรกิจปลายน้ำที่เกี่ยวเนื่องต่อยอดรายได้เพิ่ม เน้นสร้างแบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ให้แกร่ง ผู้บริหารเผยเดินหน้าต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งโซลาร์รูฟท็อป รับซ่อมแซมบำรุงรักษาถังแก๊ส ขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ส่งสัญญาณดีต่อเนื่อง
น ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2565 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนสำหรับขยายธุรกิจไว้ที่ประมาณ 500-600 ล้านบาท โดยเน้นลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) และส่วนธุรกิจซ่อมบำรุงรักษาถังก๊าซ อุปกรณ์ และส่วนควบของเตาแก๊สหุงต้ม
โดยธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ และบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะรับงานใหม่ๆ เพิ่มเติม ส่วนธุรกิจซ่อมบำรุงรักษาถังก๊าซ อุปกรณ์ และส่วนควบของเตาแก๊สหุงต้ม ตอนนี้มีกำลังการซ่อมอยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนใบต่อปี ซึ่งทำให้สามารถประหยัดต้นทุน และควบคุมคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 7.65 แสนตัน จากปี 2564 ที่มียอดขายเท่ากับ 7 แสนตัน จากการเพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนจำนวน 20 แห่งทั่วประเทศในปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถขยายฐานกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมียอดส่งออกมาช่วยหนุน ปัจจุบัน WP มีส่วนแบ่งการตลาด LPG อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 18% ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนปีนี้จะฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับการประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ได้รับทราบมาตรการดูแลราคาก๊าซหุงต้ม LPG ที่ระดับ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมจะสิ้นสุดในเดือน ม.ค.2565 จากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งทางกระทรวงฯ เตรียมปรับราคาก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดในวันที่ 1 ก.พ.2565 ส่งผลทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย
“จากการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นทำให้ในอนาคตอีก 5 ปี ข้างหน้าสัดส่วนกำไรจากธุรกิจใหม่จะเพิ่มเป็น 30% ส่วนธุรกิจ LPG จะลดลงเหลือ 70% จากปัจจุบันสัดส่วนกำไรเกือบทั้งหมดมาจากธุรกิจ LPG ซึ่งบริษัทยังมุ่งเน้นขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ LPG เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักและเสริมศักยภาพในส่วนของรายได้และกำไร รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น” น.ส.ชมกมล กล่าว