xs
xsm
sm
md
lg

กกพ.แย้มแผนเดินหน้าโซลาร์ภาคประชาชนปี 65 ต่อเนื่อง แต่หั่นเป้ารับซื้อเหลือ 10 MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ กกพ.” พร้อมเดินหน้าโซลาร์ภาคประชาชนปี 2565 ต่อเนื่องแต่แนวโน้มปริมาณรับซื้อไฟอาจเหลือ 10 เมกะวัตต์ เบื้องต้นรอกระทรวงพลังงานเคาะชัดเจนอีกครั้งหลังปี 2564 รับซื้อ 50 เมกะวัตต์ ล่าสุดลงนามซื้อขายไฟ 851 ราย 4.76 เมกะวัตต์ รวมปี 62-64 จ่ายเข้าระบบ 994 ราย กำลังผลิตติดตั้งแค่ 5.49 เมกะวัตต์ มองแนวโน้มปี 2565 ค่าไฟแพงอาจหนุนให้คนหันมาติดตั้งเพื่อลดรายจ่ายมากขึ้น

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
เปิดเผยว่า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาสำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านที่อยู่อาศัย (โซลาร์ภาคประชาชน) ปี 2565 เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเปิดรับซื้อในปริมาณรวมประมาณ 10 เมกะวัตต์ (10,000 กิโลวัตต์ KWp) เนื่องจากการเปิดรับในปี 2564 ปริมาณ 50 เมกะวัตต์เป็นระยะเวลา 10 ปีโดยปรับอัตรารับซื้อไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้ขายเข้าสู่ระบบจาก 1.68 บาทต่อหน่วยเป็น 2.20 บาท/หน่วย เบื้องต้นพบ 174 รายจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ประมาณ 1 เมกะวัตต์ (1,003 กิโลวัตต์) เท่านั้น และเมื่อรวมดำเนินการตั้งแต่ปี 2562-จนถึง 30 พ.ย. 2564 มีการจ่ายไฟเข้าระบบจำนวนทั้งสิ้น 994 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 5.49 เมกะวัตต์( 5,499 กิโลวัตต์)

"เราก็ได้รับนโยบายมาเบื้องต้นว่ายังเดินหน้าส่งเสริมต่อไป โดยเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้หารือกับทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เขาก็วางไว้เบื้องต้นที่ประมาณ 10 เมกะวัตต์ในปี 2565 แต่ต้องรอคอนเฟิร์มตัวเลขที่ชัดเจนอีก ซึ่งเอาจริงๆ รัฐเองก็ไม่คาดหวังในเรื่องของปริมาณไฟฟ้าจากโครงการนี้เพราะต้องเข้าใจว่าหลังคาบ้านประชาชนติดได้ราว 5 กิโลวัตต์เท่านั้น ปีหนึ่งๆ มาได้ระดับ 100 กว่าหลัง ดังนั้น 10 เมกะวัตต์จะมีบ้านติดได้ราว 2,000 หลังถือว่าค่อนข้างมากอยู่" นายคมกฤชกล่าว

ทั้งนี้ การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของบ้านที่อยู่อาศัยถือเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนมากกว่าว่าต้องการประหยัดไฟฟ้าในช่วงกลางวัน หรือต้องการดูแลสิ่งแวดล้อม และการตัดสินใจก็อยู่ที่ปัจจัยต่างๆ ทั้งความคุ้มค่าการลงทุนซึ่งต้องเน้นผู้ที่อยู่อาศัยในช่วงกลางวัน หากติดแล้วเน้นใช้กลางคืนก็จะต้องติดระบบแบตเตอรี่ (ESS) ซึ่งก็จะต้องลงทุนเพิ่มอีก ขณะเดียวกัน ลักษณะบ้านที่เป็นบ้านเก่าแต่ละหลังต้องดูโครงสร้างว่าเอื้อหรือไม่ หากบ้านใหม่ก็ต้องออกแบบไว้เลยก็จะง่ายกว่า รวมไปถึงค่าไฟฟ้าในขณะนั้นโดยยอมรับว่าค่าไฟฟ้าปี 2565 ที่ปรับตัวสูงอาจจะทำให้ความสนใจในการติดตั้งมีมากขึ้น อย่างไรก็ตามราคาแผงโซลาร์ฯ ที่แพงขึ้นขณะนี้มาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าในที่สุดการผลิตก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามมาและทำให้ราคามาอยู่ในจุดสมดุลได้

สำหรับรายละเอียดโครงการโซลาร์ภาคประชาชนสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2564 ที่มีการรับซื้อ 50 เมกะวัตต์ (50,000 กิโลวัตต์หรือ KWp) แบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 15 เมกะวัตต์ (15,000 กิโลวัตต์) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 35 เมกะวัตต์ (35,000 กิโลวัตต์) ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 64 มีผู้ยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าที่มีเอกสารครบถ้วน 2,027 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 11,048 กิโลวัตต์ ผ่านการตรวจสอบด้านเทคนิค 1,864 ราย (กฟน.1,046 ราย กฟภ.818 ราย) กำลังผลิตติดตั้งรวม 10,092 กิโลวัตต์ ลงนามซื้อขายไฟฟ้า (PPA) 851 ราย รวมกำลังผลิตติดตั้ง 4,764 กิโลวัตต์และจ่ายไฟเข้าระบบ (COD) 174 ราย รวมกำลังผลิตติดตั้ง 1,003.8 กิโลวัตต์

ส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์กลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยบาลและสูบน้ำเพื่อการเกษตรที่เปิดรับคำเสนอขอขายไฟฟ้ารวม 50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงเรียนและสถานศึกษา 20 เมกะวัตต์ โรงพยาบาล 20 เมกะวัตต์ สูบน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์ เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2564-30กันยายน 2564 มีผู้ยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้ารวม 79 ราย กำลังผลิตติดตั้ง 8,800 กิโลวัตต์ (8.8 เมกะวัตต์) แบ่งเป็น โรงเรียนและสถานศึกษา 72 ราย และสูบน้ำเพื่อการเกษตร 7 ราย ส่วนโรงพยาบาลไม่มีการยื่นเสนอ แต่ผ่านการตรวจสอบด้านเทคนิค 21ราย (โรงเรียน สถานศึกษา 20 ราย) สูบน้ำเพื่อการเกษตร 1 ราย รวมกำลังผลิตติดตั้ง 2,311.94 กิโลวัตต์ ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 7 ราย รวมกำลังผลิต 790.2 กิโลวัตต์
กำลังโหลดความคิดเห็น