ตลาดหุ้นกลับสู่ความคึกคักอีกครั้ง หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลผลกระทบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” โดยดัชนีหุ้นพุ่งทะยานต่อเนื่องทะลุ 1,600 จุด และมีความหวังว่าอาจตีฝ่าแนวต้านระดับ 1,650 จุดไปได้
นักลงทุนทั่วโลกเริ่มชาชินกับโอไมครอน และทยอยกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้นคืน ทำให้ตลาดหุ้นเขียวขจี รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในระยะสั้น
ปลายปีนี้ถ้าไม่มีข่าวร้ายแทรกซ้อนเข้ามาอีก เป้าหมายดัชนีที่ระดับ 1,650 จุด คงไม่ไกลเกินจริงนัก เพราะข่าวดีเริ่มเข้ามาแทนที่ข่าวร้าย โดยนอกจากทั่วโลกจะผ่อนคลายการแพร่ระบาดของโอมิครอนแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศลดลงในระดับ 3,000 รายต่อวัน
และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยืนยันว่าจะไม่มีการปิดประเทศ ปลุกให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวขึ้นยกแผง
นักลงทุนรายย่อยได้เก็บเกี่ยวกำไรกันอีกรอบ เพราะในช่วงที่เกิดความตื่นตระหนกในผลกระทบโอมิครอน โดยนักลงทุนต่างชาติ กองทุนรวม และพอร์ตโบรกเกอร์เทขายหุ้น จนราคาหุ้นดิ่งลง แต่นักลงทุนรายย่อยกลับซื้อสวน จนมีหุ้นต้นทุนต่ำเต็มไม้เต็มมือ
อีกประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนปิดฉากปี 2564 ตลาดหุ้นไม่น่าจะมีความผันผวนรุนแรง โดยอาจแกว่งตัวขึ้นในกรอบแคบๆ
แต่ปีหน้าตลาดหุ้นถูกทำนายว่า แนวโน้มจะสดใสต่อเนื่องจากปีนี้ โดยดัชนีอาจพุ่งทะยานเหนือ 1,800 จุด ภายใต้สมมุติฐานดัชนีสิ้นปีนี้ปิดที่ระดับ 1,650 จุด
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO มีความเชื่อว่า ดัชนีหุ้นปีหน้าจะขึ้นไปแตะระดับ 1,800 จุด ขณะที่โบรกเกอร์บางแห่งประเมินว่า หุ้นจะวิ่งไปถึง 1,850 จุด
ปัจจัยที่ถูกหยิบยกมาสนับสนุนมุมมองของนายไพบูลย์ คือ ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้ เศรษฐกิจจะเติบโตสูง โดยจีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% และเงินทุนจะไหลเข้ามาระดับกว่า 1 แสนล้านบาท รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นตัวหลังชะลอตัวมา 2 ปี
มุมมองของประธานกรรมการ FETCO เป็นมุมมองโลกสวย แต่จะเป็นจริงหรือไม่ต้องรอดูกันต่อไป โดยเฉพาะการกลับมาของเงินทุน หรือการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ
เพราะช่วงปลายปีนี้หลายโบรกเกอร์เคยคาดการณ์ว่าต่างชาติจะกลับมา แต่จนถึงขณะนี้ต่างชาติยังไม่มา และทยอยขายหุ้นออกต่อเนื่อง โดยในเดือนธันวาคมนี้เพิ่งซื้อเพียงวันเดียวไม่กี่ร้อยล้าน แต่เทขายมาตลอดวันละระดับพันล้านบาท
ถ้าปีหน้าต่างชาติไม่กลับมา โอกาสที่จะเห็นดัชนีหุ้นขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 จุด อาจเป็นไปไม่ได้
เพราะกำลังซื้อนักลงทุนภายในประเทศคงขับเคลื่อนตลาดหุ้นให้เดินหน้าต่อไปไกลๆ ไม่ไหว โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อหุ้นเก็บสะสมไว้หลายแสนล้านบาท ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนแทบจะหมดแรงซื้อกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นปีหน้ายังไกลเกินไปที่จะฟันธงว่า สดใสตามทัศนะของคนมองโลกสวยหรือไม่ นอกจากเฝ้าจับตาสถานการณ์ต่างๆ และประเมินเป็นระยะๆ
โจทย์เฉพาะหน้าของนักลงทุนคือ สิ้นปีนี้จะได้เห็นดัชนีหุ้นปีนขึ้นเหนือ 1,650 จุดหรือไม่
และหุ้นที่ขึ้นมาแรงหลายวันติด ควรระบายขายหุ้นทำกำไรออกไปบ้างหรือไม่
แต่รอบนี้ถ้าไปต่อถึง 1,650 จุดจริง กอดหุ้นไว้รอขายปลายปีดีกว่า
