xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นกลุ่มพลังงาน-ค้าปลีกกดดันตลาด SET INDEX ปิดร่วง -1.36 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยแกว่งแคบ กลุ่มพลังงาน-ค้าปลีกกดดันตลาด ปิดตลาดลดลง -1.36 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นขนาดใหญ่ไร้ปัจจัยชี้นำ นักลงทุนเล็งหุ้นขนาดกลางมีสีสันมากกว่า ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ ในแนวแนวรับที่ 1,645 จุดและแนวต้านที่ 1,650 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ปิดตลาดปรับตัวลดลง -1.36 จุด หรือ -0.08% มาอยู่ที่ 1,648.46 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 73,548.06 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกสลับแดนลบโดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,656.46 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,644.87 จุด

ขณะที่ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 616 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 655 หลักทรัพย์ และลดลงจำนวน 1,187 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,159.39 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 338.38 ล้านบาท ส่วน นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 440.94 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 380.07 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,102.76 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,866.92 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,230.11 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
4.SVOA มูลค่าการซื้อขาย 1,911.50 ล้านบาท ปิดที่ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,824.89 ล้านบาท ปิดที่ 11.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 436.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 0.93%
2.JMART ปิดที่ 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาทหรือ 6.74%
3.SCB ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 2.35%
4.KBANK ปิดที่ 147.00 บาทเพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 2.08%
5.JMT ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 3.88%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 210.00 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 1.87%
2.CPALL ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 1.99%
3.MAJOR XD ปิดที่ 20.40 บาท ลดลง 1.10 บาทหรือ 5.12%
4.CPN ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.77%
5.EGCO ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.56%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,257.25 จุด ลดลง -1.59 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 987.60 จุด ลดลง -1.59 จุด หรือ -0.16% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 571.57 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด หรือ 0.59%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ ตลาดฯรับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มพลังงานก็กดดันหลังราคาน้ำมันปรับตัวลง สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบทั้งในแดนบวก-ลบ ประมาณ 0.5% จากที่ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการในวันนี้ (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ไม่มีปัจจัยชี้นำ ส่งผลให้หุ้นขนาดกลางวันนี้ดูจะมีสีสันมากกว่า

ขณะที่ด้านตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรปยังไม่ดีขึ้น แต่หลายประเทศต่างก็เลือกใช้การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ด้วยการควบคุมบางพื้นที่ หรือบางกิจกรรม ไม่ได้ใช้การล็อกดาวน์ ทำให้ยุโรปกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ รวมทั้งการเมืองในเยอรมนีก็มีความคืบหน้าในทางบวกเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) มองว่า ตลาดฯจะคงจะแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด พร้อมมองหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะสร้างสีสันให้ตลาดฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น