หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -3.12 จุด หรือ -0.19% นักวิเคราะห์ชี้โควิดสายพันธ์เดลต้ากลับมาระบาดซ้ำและรุนแรงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกดารลงทุนและเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัว ประเมินกรอบการลงทุนพรุ่งนี้ที่แนวรับ 1,630-1,635 จุด และแนวต้านที่ 1,655-1,660 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ปรับตัวลดลง -3.12 จุด หรือ -0.19% โดยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,646.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 90,227.64 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนบวก ก่อนที่เปิดตลาดภาคบ่ายเริ่มทยอยลดลงและปิดตลาดในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,654.49 จุด และลดระดับลงต่ำสุดที่ 1,644.02 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 585 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 500 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,138 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,556.18 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,338.26 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,451.19 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 443.25 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,661.95 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
2.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,595.78 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,520.37 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,712.81 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,261.03 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.RS 20.50 บาท +1.10 บาท หรือ +5.67%
2.STGT 28.00 บาท +1.00 บาท หรือ +3.70%
3.TKN 7.60 บาท +0.25 บาท หรือ +3.40%
4.SUPER 0.98 บาท +0.03 บาท หรือ +3.16%
5.ADVANC 215.00 บาท +6.00 บาท หรือ +2.87%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.MEGA 52.50 บาท -3.00 บาท หรือ -5.41%
2.TU 19.40 บาท -0.70 บาท หรือ -3.48%
3.KBANK 143.50 บาท -3.50 บาท หรือ -2.38%
4.KKP 60.25 บาท -1.50 บาท หรือ -2.43%
5.AP 9.15 บาท -0.20 บาท หรือ -2.14%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,254.68 จุด ลดลง -4.31 จุด หรือ -0.19% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 987.26 จุด ลดลง -1.92 จุด หรือ -0.19% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 561.94 จุด ลดลง -1.26 จุด หรือ -0.22%
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง เหตุมาจากความกังวลการล็อกดาวน์ในยุโรป หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวลงประมาณ 1% ในเกือบทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้ประกาศล็อกดาวน์ไปแล้ว ส่งผลให้อาจเกิดผลกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายราคาน้ำมันปรับตัวลง 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสหรัฐฯจะระบายน้ำมันในคลังยุทธศาสตร์ออกมา ซึ่งถือว่าเป็นอีกปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ ยังปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทางฝั่งยุโรป แม้ว่าสถานการณ์บ้านเราจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็ประมาทไม่ได้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) มองว่า ตลาดทุนยังมีโอกาสอ่อนตัวลงจากแรงกดดันการล็อกดาวน์ในยุโรป ที่อาจส่งผลให้ Fund Flow มีความผันผวนได้ โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,630-1,635 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,655-1,660 จุด