หุ้นไทยปิดบวก 1.50 จุด หรือ +0.09% โบรกฯ เผยดัชนีไร้ทิศทางการเคลื่อนไหวที่ไม่ชัดเจน นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นตามงบ และตามแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 และได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าที่ 1,625-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ปิดตลาดที่ 1,633.94 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.50 จุด หรือ +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 70,359.34 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,640.66 จุด และปรับตัวลดระดับลงต่ำสุดที่ 1,632.88 จุด
ในส่วนของหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงโดยปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวน 629 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 564 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,019 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 1,427.27 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 0.81 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,271.02 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -157.07 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,141.68 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,715.26 ล้านบาท ปิดที่ 20.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,648.02 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,410.47 ล้านบาท ปิดที่ 90.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,295.83 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BAM 20.30 บาท +1.20 บาท หรือ +6.28%
2.PTG 15.20 บาท +0.40 บาท หรือ +2.70%
3.PTL 23.60 บาท +0.60 บาท หรือ +2.61%
4.SINGER 44.50 บาท +1.00 บาท หรือ +2.30%
5.STEC 13.70 บาท +0.30 บาท หรือ +2.24%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.THANI 4.12 บาท -0.12 บาท หรือ -2.83%
2.SYNEX 26.00 บาท -0.50 บาท หรือ -1.89%
3.TQM 106.00 บาท -2.00 บาท หรือ -1.85%
4.ORI 11.50 บาท -0.20 บาท หรือ -1.71%
5.CPN 58.25 บาท -1.00 บาท หรือ -1.69%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,234.54 จุด ลดลง -0.11 จุด หรือ 0.00% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 979.59 จุด ลดลง -0.29 จุด หรือ -0.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 558.09 จุด เพิ่มขึ้น 5.30 จุด หรือ 0.96%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบไม่กว้างในช่วงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 ทำให้มีการเล่นหุ้นตามงบ และตามแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 ทำให้ตลาดมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ไม่ชัดเจน แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไร
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งตัวในกรอบไม่กว้างเช่นกัน แต่ตลาดในแถบเอเชียเหนือจะปรับขึ้นได้ดี ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ชะลอหลังจากที่วานนี้ปรับขึ้นได้ดี
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้ามองว่า ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้หลังสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการแล้ว โดยให้ติดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/64 ของไทยที่จะออกมาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และ GDP งวดไตรมาส 3/64 ของญี่ปุ่น และโซนยุโรปต่อไปด้วย รวมถึงติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรด้วยว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือราคาสินค้าเกษตรอย่างไร พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,625-1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด
