xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กแลนด์ลอร์ดประกาศรีแบรนด์ พลิกฟื้น “อยู่เจริญ เอสเตทส” ทุ่ม 2 พันล้าน นำร่อง 3 โครงการโชว์แกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล
ทายาทรุ่นที่ 2 บิ๊กแลนด์ลอร์ดกลุ่มพันนาลิฟวิ่ง ลุยภารกิจใหม่ประกาศรีแบรนด์พลิกฟื้น “อยู่เจริญ เอสเตทส” รุกสมรภูมิอสังหาริมทรัพย์แข่งเดือด ย้ำจุดแข็งประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี ปักหลักทำเลทองย่านประดิษฐ์มนูธรรม-เลียบด่วนรามอินทรา แหล่งเศรษฐกิจระดับพรีเมียมจุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า ทุ่ม 2 พันล้าน ผุด 3 โครงการนำร่อง เจาะตลาดไฮเอนด์ลูกค้ากำลังซื้อสูงทั้งบ้านเดี่ยว โฮมออฟฟิศ คอนโด แย้มแผนต่อยอดโปรเจกต์ Commercial Community - Health Care Center มั่นใจปีนี้เติบโตมากกว่า 20% เล็งแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3-5 ปี

ดร.ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พันนาลิฟวิ่ง จำกัด ผู้นำการบริหาร “อยู่เจริญ เอสเตทส” (U Charoen Estate) เปิดเผยว่า กลุ่มตระกูลรุ่งโรจน์ธนกุลในฐานะผู้บุกเบิกโครงการหมู่บ้านจัดสรรคุณภาพรายแรกๆ ของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ “อยู่เจริญ” ตัดสินใจกลับมารุกสมรภูมิธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง โดยผนวกกับกลุ่มพันนาลิฟวิ่ง พลิกสร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ “อยู่เจริญ เอสเตทส” (U Charoen Estate) ตอกย้ำจุดแข็งจากประสบการณ์ที่สั่งสมยาวนานมากกว่า 40 ปี สร้างบ้านดี มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และอยู่ในทำเลที่ดี ผสมผสานกับวิสัยทัศน์ (vision) และปณิธาน (mission) ตระหนักถึงการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประยุกต์เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

บริษัทตั้งเป้านำที่ดินในทำเลต่างๆ มาพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีจุดเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสีส้ม โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระราม 9-ท่าพระ) ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังเร่งฟื้นโครงการ ขณะเดียวกัน เป็นย่านเชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม แวดล้อมด้วยศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์ระดับไฮเอนด์ โครงการมิกซ์ยูสในอนาคตอีกหลายแห่ง ซึ่งสร้างแรงดึงดูดกลุ่มเป้าหมายระดับบน ทั้งในแง่การอยู่อาศัยและในแง่การลงทุนสูงมาก

ล่าสุด บริษัทนำร่องเปิดตัว 3 โครงการ 2 รูปแบบ เจาะตลาดระดับกลาง-บน กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อใน ช่วงวัยที่เริ่มมีชีวิตครอบครัวที่ดี ได้แก่ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น เป็นส่วนตัวเพียง 14 ยูนิต โดดเด่นอย่างแตกต่าง ด้วยการออกแบบสไตล์ Modern Japanese พื้นที่ใช้สอยกว่า 431 ตร.ม. รองรับพื้นที่จอดรถสูงสุด 6 คัน พร้อมลิฟต์โดยสารส่วนตัว และระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานผ่านระบบ Home Automation โครงการตั้งอยู่บนถนนศรีวรา ย่านเอกมัย-รามอินทรา ทำเลใจกลางเมืองที่ดีที่สุด แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย พร้อมเชื่อมต่อโลกธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยทางด่วนพิเศษฉลองรัช และศรีรัช ทั้งยังสามารถเข้าออกได้จากหลากหลายเส้นทางหลัก ทั้งเข้าเมืองและออกเมือง

“อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์” คอนโดมิเนียมย่านทาวน์อินทาวน์ ติดถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม เรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ ด้วยสไตล์ Modern Japanese แบบ Low Rise สงบ เป็นส่วนตัว เพียง 208 ยูนิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยรูปแบบที่อยู่อาศัยพร้อม Smart Home Automation ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์”

“บ้านอยู่เจริญ อีสต์วิลล์” โฮมออฟฟิศสุดหรู ทั้งแบบบ้านแฝดและทาวน์โฮม พื้นที่ใช้สอย 355-430 ตร.ม. รองรับพื้นที่จอดรถสูงสุด 6 คัน พร้อมลิฟต์โดยสารส่วนตัว ระบบ Home Automation และ Underground Utility System สัมผัสกลิ่นอายสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสไตล์ Modern Palladian ทำเลล้ำค่าที่ตอบสนองธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โครงการตั้งอยู่ในซอยนาคนิวาส 6 ด้านหลัง Central Festival Eastville เพียง 5 นาที ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

“เราเข้าใจธรรมชาติมนุษย์ ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีกว่าและต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต เรามองลูกค้าระดับกลางที่พร้อมปรับสถานะเป็นระดับบน ซึ่งพร้อมก้าวไปกับทุกๆ คน และกลุ่มลูกค้าระดับบนดั้งเดิม โดยปีนี้นำร่องก่อน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อเป็นมาสเตอร์พีซ กระตุ้นการสร้างแบรนด์ อยู่เจริญ เอสเตทส ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก” ดร.ชนฐนพค์ กล่าว

ที่สำคัญ จากการศึกษาตัวเลข Feasibility Study พบว่า สัดส่วนต้นทุนการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทจะไม่ต่างจากอดีตมากนัก แต่การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีค่อนข้างสูง ซึ่งอยู่เจริญ เอสเตทส จะมุ่งเน้นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ และอาศัยการพัฒนาแบบเพิ่มมูลค่าให้เหมาะสม โดยเท่าที่ทดสอบตลาดจากโครงการของกลุ่มพันนาลิฟวิ่ง บริษัทประสบความสำเร็จมากและกลุ่มลูกค้าเดิมยังนึกถึงแบรนด์ “อยู่เจริญ” จึงตัดสินใจผนึกกำลังกันและเปิดกลยุทธ์รีแบรนด์ใหม่

บริษัทยังเตรียมแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องในแนวเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ไม่ต่ำกว่า 3 โครงการในปี 2565 และเมื่อทุกอย่างพร้อม แบรนด์เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โอกาสพร้อม จังหวะพร้อม บริษัทจะพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ขึ้น หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น โครงการ Commercial Community หรือ Health Care Center รวมถึงขยายการลงทุนในพื้นที่ต่างจังหวัด

ด้านเป้าหมายรายได้ในปี 2564 บริษัทคาดการณ์จะเติบโตกว่า 20% และยอดขายพรีเซลไม่ต่ำกว่า 820 ล้านบาท จาก 2 โครงการแรกที่จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ ได้แก่ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” โฮมออฟฟิศ สไตล์ Modern Japanese และคอนโดมิเนียมเรียบหรู “อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์” ที่รังสรรค์ขึ้นบนถนนศรีวรา ย่านทาวน์อินทาวน์

ดร.ชนฐนพค์ กล่าวอีกว่า ในอนาคตเมื่อทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดไว้ไม่เกิน 3-5 ปีข้างหน้า

อนึ่ง “อยู่เจริญ” จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เริ่มต้นพัฒนาพื้นที่ให้เช่าซื้อ หรือ “เซ้ง” และเป็นผู้บุกเบิกแนวการเช่าซื้ออาคารพาณิชย์ ระยะเวลา 30 ปี เป็นรายแรกให้แก่สังคมไทยและเป็นผู้พัฒนาอาคารที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ที่เรียกว่า “Town House” ที่มีที่จอดรถในตัวเป็นรายแรก และเล็งเห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์หรูหรามากขึ้น จึงคิดค้นโครงการนำร่อง “บ้านพันนา” การอยู่อาศัยด้วยภูมิปัญญาในรูปแบบ Home Office สมัยใหม่ และ “ตรรกะ” Luxury Low Rise Condominuim สไตล์เรียบหรู
กำลังโหลดความคิดเห็น