SINGER จัดงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ โดยอนุมัติการเพิ่มทุน และเพิ่มวงเงินการเสนอขายหุ้นกู้ สนับสนุนแผนการโตก้าวกระโดด เชื่อในปี 2565 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมเติบโตแตะ 15,000 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติแผนการนำ SGC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี 2565 ที่จะถึง มีแผนสร้าง New Chapter ใหม่ภายในกลุ่ม
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท จัดงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ (E-EGM) ซึ่งที่ประชุมอนุมัติผ่านทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ โดยอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียนเดิม 533,009,737.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 838,017,578.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 305,007,841 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบ่งเป็น
การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 96,341,464 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 36.3005 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,497,243,313.93 บาท
การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 197,108,696 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 36.3005 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 7,155,144,219.15 บาท ให้แก่ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 3 (SINGER-W3) จำนวน 11,557,681 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด ซึ่งการได้รับอนุมัติในวาระการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว คาดว่าในปีหน้าจะได้เห็นความร่วมมือกับบริษัทในเครือบีทีเอส กรุ๊ป เพิ่มโอกาสในการเติบโตด้วยฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังอนุมัติวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติม เพิ่มเติมจากวงเงินเดิมซึ่งมีอยู่แล้ว 8,000 ล้านบาท และได้รับอนุมัติเพิ่มเติมวงเงินอีกไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะมีวงเงินสำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 10,000 ล้านบาท สนับสนุนแผนการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเชิงพาณิชย์ (Hire Purchase) และสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ในปี 2565 ตั้งเป้ามีพอร์ตสินเชื่อรวมเติบโตแตะ15,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ SINGER ยังเดินหน้านำบริษัท เอสจี แคปปิตอล (SGC) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย แปรสภาพเป็น บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เพื่อเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 820 ล้านบาท แบ่งออกเป็นจำนวน 820 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 25.1% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ (Pre emptive Right) และการนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดแล้วเสร็จกลางปี 2565 ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวจะทำให้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สามารถเพิ่มช่องทางระดมทุน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยตนเอง มีความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น และเป็นการลดภาระให้กับบริษัทแม่ในการสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ด้วย
ทั้งนี้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทเพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ถือหุ้นของบริษัทจากการที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ลดลงจากร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน เหลือประมาณร้อยละ 74.9 ของทุนจดทะเบียน
โดยคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นและไว้วางใจในแผนการดำเนินงานด้านต่างๆ ของบริษัทมาโดยตลอด และยังมีมติอนุมัติให้แผนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และการขยายวงเงินหุ้นกู้ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ นับเป็นการเสริมสร้างโอกาสให้บริษัทฯ บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และนำมาซึ่งการสร้างผลตอบแทนที่ดี เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป