4 บิ๊กอสังหาฯ SIRI-PSH-QH-AP รับลูก ธปท. หลังปลดล็อกเกณฑ์ LTV ให้กู้บ้านได้เต็ม 100% ถึงสิ้นปี 65 เพื่อกระตุ้นอสังหาฯ เชื่อลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด คาดกำลังซื้อกลับมา 20% ช่วยหนุนเศรษฐกิจ และการจ้างงานในอนาคต ขณะที่การแข่งขันรุนแรงขึ้น ขณะที่โบรกฯ เล็งปรับเพิ่มเป้ากำไรโค้งสุดท้ายปีนี้ และกำไรปีหน้าทั้งกลุ่ม ส่วนราคาหุ้นวิ่งแรงยกแผง ขานรับข่าวดี
วันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศคลายกฎเกณฑ์ โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็น 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) จากปัจจุบันมีเพดาน LTV ที่ 70-90% ถึงสิ้นปี 2565 สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (รวมสินเชื่ออื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย และมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกัน หรือสินเชื่อ Top-up แล้ว) เพื่อช่วยเร่งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็ง หรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้ ผ่านการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) เป็นการชั่วคราว
ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ปรับตัวขึ้นเกือบทั้งกลุ่ม เช่น SIRI ปิดที่ 1.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 3.23% มูลค่าการซื้อขาย 366.53 ล้านบาท LPN ปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท หรือ 3.14% มูลค่าการซื้อขาย 193.20 ล้านบาท PSH ปิดที่ 13.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.50% QH ปิดที่ 2.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.63% มูลค่าการซื้อขาย 266.83 ล้านบาท AP ปิดที่ 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 6.06% มูลค่าการซื้อขาย 776.59 ล้านบาท SPALI ปิดที่ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 5.88% มูลค่าการซื้อขาย 1,546.89 ล้านบาท และ ORI ปิดที่ 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 7.48% มูลค่าการซื้อขาย 384.43 ล้านบาท
SIRI เชื่อปลดล็อก LTV ดึงกำลังซื้อประชาชนฟื้น
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายการกำหนดอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) เป็น 100% จาก 70-90% ถึงสิ้นปี 65 จะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับคืนมา หลังจากก่อนหน้านี้ ลูกค้าหลายรายไม่มีเงินสดที่จะมาวางเงินดาวน์
ในส่วนของราคาบ้านเดี่ยวของบริษัท ส่วนใหญ่ 60-70% ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท นอกนั้น 30-40% จะเป็นราคาที่มากกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่คอนโดราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีหลายยูนิต ทำให้หลังการผ่อนคลายมาตรการให้ทีมการตลาดจัดทำแคมเปญ และ โปรโมชัน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีนี้
"ตรงนี้จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อบ้านได้ กู้ได้ 100% และอยากให้ ธปท. คลายล็อปให้หมดเลย เช่น ราคามากกว่า 10 ล้านบาทด้วยก็จะดี” นายอุทัย กล่าว
PSH ประเมินจะหนุนกำลังซื้อกลับมา 20%
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ในเครือของบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวว่า การขยายเพดานดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากภาคอสังหาฯ คิดเป็น 10% ของจีดีพี ทั้งนี้ คาดหวังว่าจะทำให้กำลังซื้อของลูกค้ากลับคืนมาประมาณ 20% จากช่วงปีแรกหลังประกาศ LTV ทำให้ลูกค้าหายไป 30% และซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ลูกค้าหายไปอีก 30% เช่นกัน
สำหรับแคมเปญที่บริษัทจะทำในช่วงนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะโดยปกติไตรมาส 4 จะมีการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาดอยู่แล้ว เพียงแต่การปลดล็อก LTV ในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนที่ไม่สามารถทำเรื่องของสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ 100% จะปลดล็อกเงื่อนไขนี้ได้ ซึ่งราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 10 ล้านบาทของบริษัทมีสัดส่วนประมาณ 70% ของพอร์ต
QH ชี้ปลดล็อกลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด
นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH กล่าวว่า การขยายเพดานส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน ไม่เฉพาะผู้ประกอบการเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ลูกค้า ประชาชนได้ประโยชน์มากสุด เนื่องจากสามารถเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงินได้มากขึ้นถึง 100% จากที่ก่อนหน้านี้ได้วงเงินสินเชื่อจำกัด ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยของบริษัทระดับราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วนที่พอสมควร
"การแข่งขันในตลาดอาจจะรุนแรงขึ้น โดยผูู้ประกอบการจะเร่งจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน เนื่องจากโดยปกติไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมีการทำการตลาดอยู่แล้ว" นายประวิทย์ กล่าว
AP เชื่อหนุนอสังหาฯ ฟื้น-กำลังซื้อพุ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ถึงสิ้นปี 65 (จากเดิมที่เพดาน LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ระดับ 70-90%) นั้น มองว่าการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงปีสิ้นปี 65 เป็นสัญญาณบวกที่ดีให้ตลาด
คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ถึงสิ้นปี 65 เท่ากับเป็นการเพิ่มความสามารถในการซื้อให้ลูกได้มากขึ้น รวมถึงส่วนหนึ่งภาคอสังหาฯ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศ โดยเฉพาะเป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการนำมาสู่โอกาสที่ดีอีกมาก
โบรกฯ จ่อเพิ่มเป้ากำไร Q4/64 ถึงปีหน้า
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไรของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 4/64 และของปี 65 หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศผ่อนคลายเพดานสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) เป็น 100% ถึงสิ้นปี 65 ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อผลประกอบกากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สำหรับริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวมากที่สุด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
1.กลุ่มบริษัทที่มียอดขายเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) จำนวนมากในช่วง 5 ไตรมาสข้างหน้า โดยฝ่ายวิจัยประเมินบริษัทที่มี Backlog มากสุด คือ SPALI มูลค่า 36,000 ล้านบาท รองลงมา ORI ราว 31,500 ล้านบาท และ AP ราว 30,900 ล้านบาท
2.กลุ่มโครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 5-10 ล้านบาท กลุ่มนี้ที่โดดเด่นที่สุดคือ AP และ 3.กลุ่มคอนโดมิเนียม ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการจะทำให้กระตุ้นความต้องการซื้อมากขึ้น หุ้นในกลุ่มนี้ที่โดดเด่นสุดคือ SPALI และ ORI