หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC หุ้นปูนใหญ่ เป็นหุ้นขนาดใหญ่อีกตัวหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายการถล่มขายของกองทุนรวมในประเทศและต่างชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ราคารทรุดหนัก ลงมาต่ำกว่า 400 บาท ซึ่งไม่ได้เห็นบ่อยนัก
ในรอบ 12 เดือน แม้ราคาหุ้น SCC จะเคยลงไปต่ำสุดที่ 334 บาท แต่หลังจากนั้นปรับตัวขึ้น และขึ้นไปสูงสุดที่ 47 บาท ก่อนจะทรงตัวในระดับ 400 บาทเศษมายาวนาน
การทรุดฮวบเมื่อวันจันทร์ โดยปิดที่ 393 บาท ลดลง 9 บาท เกิดจากการขายของกองทุน และต่างชาติ ซึ่งอาจเป็นการปรับพอร์ตขายหุ้นทำกำไรช่วงปลายปี เช่นเดียวกับการขายหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว โดยไม่มีปัจจัยลบใดๆ กระทบ การปรับฐานลงจึงเป็นจุดที่น่าสนใจ
SCC ไม่ใช่หุ้นเก็งกำไร ราคาเคลื่อนไหวไม่ร้อนแรงเหมือนหุ้นตัวเล็ก แต่เป็นหุ้นสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศต้องซื้อติดไว้ในพอร์ต
นักลงทุนระยะยาวจำนวนไม่น้อยเก็บหุ้นปูนใหญ่ ถือเพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลเหมือนกัน เพราะเป็นหุ้นที่มีเงินปันผลดี จ่ายสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง
หลายปีก่อนผลประกอบการ SCC ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลง แต่ปี 2563 ผลประกอบการเริ่มกระเตื้อง และงวด 6 เดือนแรกปีนี้กำไรเติบโตสูง ทำให้นักวิเคราะห์ปรับมุมมองใหม่ โดยหันมาแนะนำให้ซื้อ แต่ราคาไม่ขยับขึ้นมากนัก
ปี 2563 หุ้น SCC มีกำไรสุทธิ 34,143.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 32,014.28 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 32,050.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16,355.07 ล้านบาท
ปี 2562 อัตราเงินปันผล 4.59% ปี 2563 อัตราเงินปันผล 3.70% ล่าสุดอัตราเงินปันผล 3.56% ผลตอบแทนจึงดีกว่าผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คุ้มที่จะลงทุนระยะยาว และราคาหุ้นได้ปรับฐานลงมาระดับหนึ่งแล้ว ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นจึงมีไม่มาก
บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์นับสิบสำนัก ส่วนใหญ่ตั้งราคาเป้าหมายหุ้น SCC คำนวณตามปัจจัยพื้นฐานสูงกว่า 500 บาท บางส่วนให้ราคาต่ำกว่า 500 บาทเล็กน้อย แต่ค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 509 บาท โดยต่ำสุดที่ 475 บาท และโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 550 บาท
ผลประกอบการ SCC ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยกำไรที่เติบโตจะทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงขึ้น
หุ้นปูนใหญ่อาจไม่ใช่หุ้นเก็งกำไรยอดนิยมเหมือนหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มอื่น จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงอาจไม่มากเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่บางตัว โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 46,457 ราย แต่มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง และราคาไม่ผันผวนรุนแรง แม้ตลาดหุ้นจะเกิดความผันผวนรุนแรงก็ตาม
การปรับฐานของ SCC ลงมารอบนี้ โดยเฉพาะราคาที่หลุดจาก 400 บาทลงมา อาจเป็นจุดที่นักลงทุนหาจังหวะเข้าไปรับ เพราะเป็นราคาที่น่าจะปลอดภัยสำหรับการถือยาว
นักลงทุนที่เงินเหลือๆ รอจังหวะดักเก็บ SCC ไว้ติดพอร์ต ดีกว่าปล่อยเงินนอนนิ่งอยู่ในแบงก์