"เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล " ปิดเทรดวันแรกที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.91 บาท หรือ 46.67% จากราคาไอพีโอที่กำหนดหุ้นละ 1.95 บาท มูลค่าซื้อขาย 7,977.76 ล้านบาท ผู้บริหารเผยระดมทุนเพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อแก่ประชาชน และก้าวสู่ผู้นำการให้บริการสินเชื่อที่ครบวงจรในประเทศไทยบริษัทฯ ขณะโบรกเกอร์มองราคาหุ้นHENG อยู่ที่ 2-2.60 บาท
หุ้น บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG เริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก เปิดตลาดราคาอยู่ที่ 3.20 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือคิดเป็น 64.10% จากราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 1.95 บาท ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.38 บาท ต่ำสุดที่ 2.78 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.91 บาท หรือ 46.67% มูลค่าซื้อขาย 7,977.76 ล้านบาทฃ
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ HENG เปิดเผยว่าวันนี้( 19 ตุลาคม 2564 )บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจการเงิน/เงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อว่า ‘HENG’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัทฯ ที่จะเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อแก่ประชาชนเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมแก่ลูกค้าในแต่ละท้องถิ่นได้อย่างดียิ่งขึ้น และก้าวสู่ผู้นำการให้บริการสินเชื่อที่ครบวงจรในประเทศไทยบริษัทฯ
นายพงษ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า HENG มีศักยภาพเติบโตที่โดดเด่นจากพื้นฐานทางการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งในการให้บริการสินเชื่อแก่คนท้องถิ่นและแผนงานสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อขยายฐานการให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายแก่ลูกค้าในภูมิภาคอื่น ๆ เพิ่มเติมผ่านเครือข่ายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพันธมิตรเต็นท์รถมือสองและนายหน้ามากว่า 5,100 ราย จะช่วยสนับสนุนอัตราการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่ออย่างก้าวกระโดดและผลักดันให้ HENG เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า HENG เป็นผู้เล่นรายใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต จากทั้งประสบการณ์ของคณะผู้บริหาร และ Synergy ของ 4 กลุ่มพันธมิตรหลัก ทำให้หลังจากได้เงินทุนจากการ IPO จะทำให้บริษัทมีการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นมาก ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 65 ของ HENG ที่ 2.60 บาท โดยอิงวิธี Gordon Growth Model (Ke=9%, Sustainable ROE=12.5%, LTG=4%) ซึ่งคิดเป็น PBV เพียง 1.7x ต่ำกว่า PBV ปีย้อนหลังของคู่แข่ง สะท้อนว่า HENG มี Discount จากบริษัทอื่นในตลาดมากพอสมควร
ทั้งนี้ HENG เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ ที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง และสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยมีจุดเด่นจาก Synergy ระหว่าง 4 พันธมิตรหลัก และด้วย D/E ที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีช่องว่างเติบโตได้อีกมาก ปี 64 คาดกำไรสุทธิโต 6.3%YoY และโตต่อ 61.2%YoY ในปี 65 หนุนด้วยพอร์ตสินเชื่อที่โตดีจากแผนเปิดสาขาใหม่อีกเท่าตัว และ NIM
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้ตลาดประเมินกำไร HENG ปี 64 ทรงตัว YoY จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้การขยายสินเชื่อไม่เป็นไปตามเป้า แต่การขยายผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเฉพาะจำนำทะเบียนที่เป็นตลาดใหญ่ทำให้พอร์ตสินเชื่อในปี 65 สามารถเติบโต +20%YoY จากการขยาย +100 สาขา พร้อมกับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจาก Digital transformation หนุนอัตรากำไรดีขึ้น ให้ กรอบราคา 2.00-2.30 บ.เป็นช่วงเหมาะสมสำหรับการเก็งกำไรบน P/E’65 18-21x ซึ่งสอดคล้องสำหรับการเติบโตของกำไร +42%YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่เติบโต +10-15%YoY ดังนั้น HENG จึงสมควรที่จะซื้อขายสูงกว่ากลุ่ม
สำหรับ HENG เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) และนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต โดย HENG มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ (IPO) 7,429.50 ล้านบาท มีไอพีโอ (IPO) จำนวน 800.84 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 21.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ที่ราคาหุ้นละ 1.95 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,561.63 ล้านบาท