เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เพียง 6 วันทำการ หุ้นบริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเสียแล้ว เพราะราคาหุ้นเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น เข้าข่ายไม่ปกติ
SVT เป็นผู้จำหน่ายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SUNVENDING” โดยเป็นบริษัทในกลุ่มสหพัฒนพิบูล และนำหุ้น จำนวน 200 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรกในราคา 2.54 บาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา SVT ประเดิมซื้อขายในวันแรกไม่คึกคักมากนัก โดยเปิดที่ 2.88 บาท และถูกเทขายลงไปต่ำสุดที่ 2.80 บาท ก่อนจะพุ่งขึ้นมาสูงสุดที่ 4.02 บาท หลังจากนั้นอ่อนตัวลงจนปิดที่ 3.54 บาท สูงกว่าราคาจอง 1 บาท หรือสูงกว่าจอง 39.37%
แต่มูลค่าการซื้อขายกลับมากมายผิดสังเกต โดยเคาะกันสนั่นหวั่นไหว 7,445.44 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการซื้อขาย 2,129.88 ล้านหุ้น มากกว่าทุนจดทะเบียน จำนวน 700 ล้านหุ้นถึงกว่า 3 เท่าตัว และมากกว่าหุ้นที่นำเสนอขายจำนวน 200 ล้านหุ้นเกือบ 10 เท่าตัว
SVT ไม่ใช่หุ้นใหม่ตัวแรกที่เข้าซื้อขายวันแรก ปริมาณการซื้อขายหุ้นพุ่งขึ้นกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไป 10 เท่าตัว สะท้อนถึงภาวะการซื้อขายที่ไม่น่าจะปกติ
เพียงแต่ตลาดหลักทรัพย์อาจไม่ตรวจสอบความผิดปกติของการซื้อขายหุ้นใหม่ ด้วยเหตุผลนโยบายการรับหุ้นใหม่ในเชิงปริมาณ ซึ่งตรวจสอบพบความผิดปกติ จะกระทบต่อภาพลักษณ์ตลาดหลักทรัพย์ และตลาด MAI ฐานปล่อยหุ้นใหม่สร้างความเสียหายต่อนักลงทุน
หลังจากเปิดการซื้อขายวันแรกอย่างเงียบเหงา SVT ถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นตลอด 6 วันทำการ โดยวันที่ 8 ตุลาคม ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 7.45 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ก่อนลงมาปิดที่ 6.75 บาท
ตลอด 6 วันที่เข้ามาซื้อขาย มีเพียงวันที่ 11 ตุลาคมเท่านั้นที่ SVT พักปรับฐาน โดยปิดที่ 5.60 บาท ลดลง 1.15 บาท หรือลดลง 17.04% แต่วันรุ่งขึ้น 12 ตุลาคม ถูกลากขึ้นมาใหม่ โดยปิดที่ 6.55 บาท เพิ่มขึ้น 95 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 16.96% มูลค่าซื้อขาย 3,186.98 ล้านบาท
ความร้อนแรงของ SVT อยู่ในข่ายสมควรแล้วที่ถูกใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย และต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด เพราะราคาและมูลค่าการซื้อขายร้อนเกินเหตุ ซึ่งอาจมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น ไม่ใช่การเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อยตามปกติทั่วไป
ค่าพี/อี เรโช หุ้น SVT ทะยานไป 70 เท่าแล้ว แม้จะไม่มีหุ้นในกลุ่มเดียวกับให้เปรียบเทียบ แต่ถือเป็นค่าพี/อี เรโช ในระดับสูงมาก และยังไม่มีข้อมูลการจ่ายเงินปันผลให้คำนวณความเหมาะสมของราคา
กลุ่มบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และกลุ่มโชควัฒนา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SVT
หุ้นในกลุ่มสหพัฒน์ทุกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มายาวนานหลายสิบปี จะเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องการซื้อขายมากนัก โดยมีลักษณะเป็นหุ้นที่ซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว หวังเงินปันผล และเป็นหุ้นกลุ่มที่แทบไม่เคยสร้างปัญหาใดๆ ในตลาดหุ้น ไม่มีพฤติกรรมการสร้างราคา ก่อความเดือดร้อนเสียหายให้นักลงทุน
แต่สำหรับ SVT มาแปลกๆ เพราะเป็นหุ้นที่มีพฤติกรรม “แหกคอก” หุ้นกลุ่มสหพัฒน์ โดยไม่รู้ว่ากลุ่มสหพัฒน์ปรับเปลี่ยนจุดยืนการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่
หรือมีใครอยู่เบื้องหลังความร้อนแรงหุ้น SVT และเป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์จะต้องตรวจสอบ
หุ้นใหม่ทุกตัวตั้งแต่เข้าซื้อขายวันแรก เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ต้องตรวจสอบการซื้อขายทันที
แต่ไม่รู้ว่าตลาดหลักทรัพย์ปิดตา 2 ข้าง ในวันแรกที่หุ้นใหม่เข้ามาซื้อขาย ปล่อยให้สร้างราคากันอย่างอิสระเสรีหรือไม่
เพราะหุ้นใหม่หลายตัวแล้วที่ลากกันอย่างร้อนแรง ปริมาณการซื้อขายสูงเกินเหตุ สูงนับ 10 เท่าตัวของทุนจดทะเบียน จนไม่น่าเป็นการซื้อขายปกติ รวมทั้ง SVT
