การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุน ด้วยความได้เปรียบด้านความมั่นคงและศักยภาพการเติบโต ตลอดจนการมีสิ่งค้ำประกันที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ ล้วนทำให้การลงทุนรูปแบบนี้ยังคงได้รับความนิยมเสมอ แต่การเลือกโครงการอสังหาฯ ที่เหมาะกับการลงทุนก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก และแนวโน้มของราคาที่ดินในอนาคต และแน่นอนว่าโครงการที่เปี่ยมศักยภาพเหล่านั้นย่อมมีมูลค่าสูงและทำให้นักลงทุนต้องใช้เงินมหาศาล หากต้องการร่วมแบ่งปันผลตอบแทนที่น่าพอใจ และความมั่งคั่งจากโครงการเหล่านี้ และจะมีสักกี่ครั้งที่เราสามารถเข้าถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้านด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10 บาท
ล่าสุด ที่เป็นกระแสร้อนแรงในวงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ คือการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “สิริฮับ” โทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์อ้างอิงต่อประชาชนและนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย (Real Estate-Backed ICO) โดยบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือ ICO Portal ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
“สิริฮับ” เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีกระแสรายรับจากค่าเช่าและรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการจากกลุ่มอาคารสำนักงาน “สิริ แคมปัส” สำนักงานใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยผู้ออกโทเคนได้ทำการแปลงสินทรัพย์นี้ให้เป็นหน่วยการลงทุนหรือที่เรียกกันว่าโทเคนดิจิทัล (Tokenization) เพื่อการระดมทุน
แล้วกลุ่มอาคารสำนักงาน“สิริ แคมปัส” นี้มีกระแสรายรับจากที่ไหน มีมูลค่าน่าลงทุนอย่างไร ทำไมจึงใช้มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการออกโทเคนได้
เพราะอะไร“สิริ แคมปัส” จึงถูกเลือกมาแปลงสินทรัพย์เป็น “สิริฮับ โทเคน”
“สิริ แคมปัส” เป็นกลุ่มอาคารสำนักงานซึ่งมีบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ทำสัญญาเช่าระยะยาว12 ปีเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท ซึ่งแสนสิริฯ เป็นบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจากทริสเรทติ้ง ที่ระดับBBB+ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยรวมทั้งการดำรงสถานะการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือ
สิริแคมปัสเป็นกลุ่มอาคารสำนักงานรูปแบบใหม่ บนพื้นที่กว่า7 ไร่ ภายในอาณาจักรT77 ในย่านสุขุมวิท ทำเลศักยภาพซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นNew CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯสิริแคมปัส ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน6 ชั้น จำนวน4 อาคาร และอาคารสำนักงานพาณิชย์และที่จอดรถ7 ชั้น จำนวน1 อาคาร โดยพื้นที่เช่าทั้งหมด19,602 ตารางเมตร ภายใต้งบลงทุนกว่า1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาเช่าแบบBare Shell เช่าเต็มพื้นที่100%โดยมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนทำงานรุ่นใหม่ฉีกกรอบการทำงานของพนักงานออฟฟิศและการทำงานรูปแบบใหม่ที่พื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตรวมอยู่ในที่เดียวกัน
ด้วยFacilitiesต่างๆ มากมายที่เอื้อต่อเทรนด์การทำงานแนวใหม่ผ่าน 2แนวคิด New Way of Work และ New Way of Life อาทิ พื้นที่ทำงานในแบบ Co-working Space ภายใต้แนวคิด Work Anywhere Anytime ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผสานการใช้ Smart Work Technology ทั้งFace scanเพื่อความปลอดภัยของคนทำงานSelf-check-in สำหรับบุคคลภายนอก SmartLocker เช็คล็อคเกอร์ที่ว่างได้ทันที ไปจนถึงนวัตกรรม Smart MeetingRoom Booking อีกทั้งยังมี Dining Space และพื้นที่สีเขียว Fitness Studio ยิม คาเฟ่ WAC ฯลฯ ที่ออกแบบมาให้ไม่เพียงเอื้อต่อการทำงานเท่านั้น
หากรวมถึงการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ทำงานในฝันของคนรุ่นใหม่ที่กระตุ้นแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานอีกทั้งยังมอบความรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างเต็มเปี่ยม
นอกจากนี้“สิริ แคมปัส” ยังมุ่งเน้นในการสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีเพื่อคนทำงานเป็นสำคัญเป็น1 ใน2 อาคารในประเทศไทยที่ได้รับการประเมินมาตรฐาน Fitwel จากองค์กร Center for Active Design (CfAD) ประเทศสหรัฐอเมริกา จนสามารถผ่านการรับรอง Fitwel Certificate ระดับสูงสุด3 ดาว
ทำเลแห่งศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน
จุดเด่นของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คือทำเลและศักยภาพในอนาคตซึ่งความโดดเด่นของ สิริ แคมปัส คือทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งตั้งอยู่ภายใน“T77 Community” ชุมชนเมืองต้นแบบเพื่อการอยู่อาศัยของกรุงเทพฯบนทำเลศักยภาพสูง พื้นที่กว่า 50 ไร่ ในย่านสุขุมวิทการเดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ติดบีทีเอสอ่อนนุช เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบ
นอกจากกลุ่มอาคารสำนักงาน “สิริ แคมปัส”ภายใน“T77Community” ยังประกอบด้วยคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัยกว่า9โครงการมีมูลค่ารวมมากกว่า 15,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการsold out แล้ว 100%และมีอุปสงค์การเช่าสูงตลอดปี โดยราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในโครงการT77 สูงขึ้น4% ต่อปี ซึ่งทำให้T77 เป็นฮับของการอยู่อาศัยที่เหมาะกับการลงทุนของนักลงทุนในทุกระดับ
นอกจากนี้T77ยังมอบไลฟ์สไตล์ที่เพียบพร้อมและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้รีเทลแนวคิดใหม่อย่าง“ฮาบิโตะ” ศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่ และCo-Working Space ไว้บริการตลอดวัน ตลอดจนโรงพยาบาลฟัน รวมไปถึงโรงเรียนนานาชาติ บางกอกเพรพซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของไทยกับแคมปัสที่ใหญ่ที่สุด ทำให้ชุมชนแห่งนี้เต็มไปด้วยชาวต่างชาติที่พำนักและทำงานระยะยาวในไทยเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดสังคมนานาชาติที่เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิดการใช้ชีวิต ธุรกิจและโอกาสต่าง ๆ มากมาย
T77 ยังมุ่งหน้าสู่การเป็น“ชุมชนสีเขียว” แห่งแรกของกรุงเทพฯด้วยการใช้นวัตกรรมสาธารณูปโภคเพื่อการอยู่อาศัยย่างSolar Cell with Blockchain-basedTechnology เพื่อสร้างพลังงานสะอาด (GreenEnergy) รวมถึงSansiri Backyard ซึ่งเป็นโครงการฟาร์มออร์แกนิกบนพื้นที่กว่า20 ไร่เพื่อสร้างศูนย์กลางการอยู่อาศัยอันเปี่ยมศักยภาพเพื่อการพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบแห่งอนาคตและยังมี “สะพานแสนสำราญ” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่กำลังเป็นกระแสยอดฮิตในโซเชียลมีเดียว่าเปรียบเสมือนอยู่ต่างประเทศ
ผลวิเคราะห์เชิงบวกมูลค่าโครงการและราคาที่ดินในอนาคต
การวิเคราะห์มูลค่าตลาดทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของ“สิริ แคมปัส” โดยผู้ประเมินราคาที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. จำนวน2 ราย ประเมินมูลค่าตลาดของโครงการนี้ที่กว่า2,400ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอนาคตอีก4 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดอาจจะสูงถึง2,600 ล้านบาท สอดคล้องกับรายงานวิเคราะห์ราคาที่ดินของศูนย์วิจัยและประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
ได้สรุปข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าบริเวณใกล้เคียงโครงการ โดยในปี 2564 มีราคาอยู่ที่ 1.1ล้านบาทต่อตารางวา และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปีซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินโครงการมีศักยภาพที่ดีและมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง
ด้วยศักยภาพของโครงการสิริ แคมปัส ที่กล่าวมา จึงชัดเจนว่า สิริ แคมปัสเป็นอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ จึงทำให้เกิดแนวคิดการTokenization นำรายรับที่มีศักยภาพจากสิริ แคมปัสมาแปลงเป็นหน่วยลงทุนย่อยๆ ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลและเสนอขายต่อประชาชน เพื่อให้ผู้ออกโทเคนดิจิทัลนำรายได้จากการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์นั้นมาแบ่งปันให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลต่อไป
ลงทุนในอสังหาฯ พันล้านด้วยเงินขั้นต่ำเพียง10 บาท กับผลตอบแทนเหนือเงินฝาก
ที่สำคัญและน่าสนใจกว่านั้นคือโทเคนที่ออกเสนอขายนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ให้ออกเสนอขายในราคาเพียงโทเคนละ10 บาท กำหนดราคาจองขั้นต่ำไว้เพียง10 บาทอีกด้วย ซึ่งหมายถึงว่า ประชาชนและผู้ลงทุนทุกกลุ่มทุกระดับจะมีโอกาสลงทุนในโทเคนดิจิทัลนี้และมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งรายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่าระดับพันล้านที่มีศักยภาพนี้ได้ทุกคนโดยเปิดโอกาสให้เลือกลงทุนตามความสนใจได้เป็น2 แบบ ได้แก่สิริฮับA (SiriHubA) จำนวน 160ล้านโทเคน และสิริฮับB (SiriHubB) จำนวน80 ล้านโทเคน
โดยสิริฮับA จะให้ผลตอบแทนเป็นส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน4.5% ต่อปี ส่วนสิริฮับB ให้ผลตอบแทนเป็นส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน 8% ต่อปีซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน โดยผลตอบแทนนี้จะโอนเข้าบัญชีผู้ลงทุนทุกไตรมาสตลอดอายุโครงการ4 ปี โทเคนที่ซื้อไว้ยังสามารถนำไปเทรดหรือซื้อขายในตลาดรองเพื่อทำกำไรได้อีก นอกจากนี้ เมื่อจบโครงการ4 ปี จะมีการนำ สิริ แคมปัสประมูลขาย ผู้ลงทุนยังได้รับส่วนแบ่งรายได้ส่วนสุดท้ายเมื่อมีการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นี้อีกตามเงื่อนไขที่ที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนทุกประการ ซึ่งผู้สนใจทุกคนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของก.ล.ต.
ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัยและทันสมัยและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต.เอ็กซ์สปริงดิจิทัลเปิดให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการลงทุนกับReal Estate-Backed ICO ตัวแรกของไทยนี้ได้ตลอด 24 ชม.สามารถจองซื้อ“โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 4 ตุลาคม 2564เสนอขายจำนวนจำกัดเพียง 240 ล้านโทเคน ผ่านแอปพลิเคชัน “XSpring” บนสมาร์ทโฟน ทั้งระบบAndroidและiOS ได้ทุกวันตลอด 24 ชม. ก้าวเข้าสู่อนาคตแห่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่บนโลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างคุ้มค่าและมั่นคง
นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการอสังหาฯไทยที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้านด้วยเงินเพียง10 บาท ในขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ เองสามารถเข้าถึงโลกของการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่จะกลายเป็นเทรนด์แห่งอนาคต