JMART อ้าแขนรับ BTS ถือหุ้น หวังเม็ดเงินใช้หนี้ - เป็นทุนหนุนธุรกิจ

"เจ มาร์ท" อ้าแขนรับทุนจาก บีทีเอส กรุ๊ปฯ นำเงินไปใช้หนี้และเป็นทุน ขณะฝั่ง BTS หวัง JMART เกื้อหนุนช่วยเพิ่มโอกาสและความหลากหลายทางธุรกิจในอนาคต ลดความเสี่ยงในภาวะที่โควิด-19 ระบาด โบรกฯ มองระยะสั้นหุ้น JMART มีโอกาสเผชิญ Sentiment ลบ จากราคาเพิ่มทุนที่ต่ำกว่ากระดาน 13% และ Dilution ที่สูง 24.9% แนะให้" ซื้อ" JMART หุ้นอ่อนตัวระยะสั้น ประเมินพันธมิตรเข้าเป็นบวกกต่อผลการดำเนินงาน จากการเกิด Synergy แข็งแกร่งหนุนกันและกัน

ราคาหุ้นหลายตัวในกลุ่ม บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บวกรับข่าวไปก่อนหน้า เพราะ JMART เพิ่งติดรายชื่อ 1 ใน 13 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณดัชนี FTSE SET Mid Cap Index สะท้อนเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยมาตรฐานการคำนวณดัชนีในระดับสากล มีผลตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา ขณะที่เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาสใส

โดย JMART มีกำไรสุทธิ 232.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,648.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% เพราะมีธุรกิจด้านการเงินเป็นหัวหอกในการทำกำไร ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 565.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,531.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8%

เพิ่มทุนให้PP เปิดทางกลุ่ม BTS เข้าถือหุ้น

ล่าสุด JMART ประกาศเพิ่มทุนให้บริษัทในกลุ่ม บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้ามาถือหุ้นผ่านทางบริษัทย่อยในเครือ โดย JMART จะเพิ่มทุน 384,803,597 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อจัดสรรให้กับ ให้ บมจ.วีจีไอ (VGI) 206,241,800 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 6,256,757,486.60 บาท และจัดสรรให้ บมจ.ยูซิตี้ (U) 136,119,587 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 4,129,459,910.82 บาท และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SINGER ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 305,007,841 หุ้น แบ่งจัดสรรให้ U 197,108,696 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ราคาหุ้นละ 36.3005 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 7,155,144,219.15 บาท ให้แก่ U ดังนั้นเบ็ดเสร็จจะส่งผลให้

VGI และ U เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ JMART รวมทั้งสิ้น 24.9% ของทุนที่ชำระแล้ว โดย VGI เข้ามาถือสัดส่วน 15% และ U ถือสัดส่วน 9.9%

สำหรับ JMART ที่เปิดทางให้บริษัทในกลุ่ม BTS เข้าถือหุ้น เพราะหวังเม็ดเงินที่จะนำไปชำระหนี้และใช้เป็นทุน ขณะฝั่ง BTS เห็นว่า JMART เป็นผู้ประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีธุรกิจหลักคือการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการค้าปลีกและค้าส่ง และลงทุนในธุรกิจหลากหลาย จะช่วยเสริมสร้างให้บริษัทมีการดำเนินประเภทธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเกื้อหนุนธุรกิจกัน และนั่นก็ทำให้ราคาหุ้นกลุ่ม JMART วิ่งรับข่าวทุกตัว

ให้" ซื้อ" JMART หุ้นอ่อนตัวระยะสั้น

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า กรณี VGI และ U ประกาศซื้อหุ้นเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ของ JMART จำนวนรวม 342 ล้านหุ้น ในราคา 30.33 บาท แม้ระยะสั้นอาจมี Sentiment ลบบ้างจากราคาต่ำกว่ากระดาน 13% และ Dilution ที่สูงราว 24.9% อย่างไรก็ตามคาดชดเชยได้จากการนำเงินไปใช้ประโยชน์ รวมถึง Synergy ที่หลายแง่มุม ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัท เพื่อทบทวนมูลค่าหุ้น ทั้งนี้ มูลค่าหุ้นกรณีอนุรักษ์นิยมหากอิงสมมติฐาน PP โดยยังไม่รวมแผนใช้เงินต่อยอดและ Synergy ของดีล ประเมินสูง 39 บาท คงแนะนำ "ซื้อ"

นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่าประโยชน์เพิ่มทุน PP จะสูงกว่าผลกระทบ ดังนั้น หุ้นอ่อนตัวระยะสั้นเป็นโอกาสสะสม ทั้งนี้ VGI และ U แจ้งตลาดฯ เรื่องมีมติอนุมัติเข้าลงทุนใน JMART ผ่านหุ้นเพิ่มทุนที่ JMART จะออกและเสนอขายให้กับ VGI และ U ในวงจำกัด ที่จำนวน 206.2 และ 136.1 ล้านหุ้น ตามลำดับ ราคาหุ้นละ 30.337 บาท โดยหลังเข้าซื้อหุ้น VGI และ U จะถือหุ้น JMART ในสัดส่วน 15% และ 9.9% ขณะที่จะได้รับ JMART-W6 (ราคาแปลงสภาพ 30.337 บาท) จำนวน 25.337 และ 16.72 ล้านหน่วย โดยหากแปลงสภาพพร้อมกับ Warrant อื่นของ JMART จะช่วยให้สัดส่วนการถือหุ้น VGI และ U ยังอยู่ในสัดส่วนเดิมหลังเข้าซื้อ PP

ฝ่ายวิจัยคาดว่า  ระยะสั้นหุ้น JMART มีโอกาสเผชิญ Sentiment ลบ จากราคาเพิ่มทุนที่ต่ำกว่ากระดาน 13% และ Dilution ที่สูง 24.9% อย่างไรก็ตาม ระยะกลาง-ยาวคาดว่าชดเชยได้ 2 ส่วน คือการนำเงินเพิ่มทุนราว 1.06 หมื่นล้านบาทไปใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการส่งต่อราว 5.5 พันล้านบาทให้กับ JMT ที่โดดเด่นเรื่องความสามารถติดตามหนี้ไปซื้อหนี้เพื่อขยายตัวต่อเนื่อง ผ่านการใส่เงินเพิ่มทุนให้กับ JMT ที่ล่าสุดประกาศเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) 4.55 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ราคา 41.5 บาท รวมถึงคืนหนี้บริษัทแม่ JMART ที่มีภาระหุ้นกู้ระยะยาวราว 5.5 พันล้านบาท

สำหรับอีกส่วนคือการสร้าง Synergy ร่วมกับกับพันธมิตรใหม่ ที่ทำได้หลากหลาย ทั้งการเปิดสาขา JMART และจุดรับส่งสินค้าบนสถานีรถไฟฟ้า, การขยายธุรกิจ E-Commerce ร่วมกับ KEX ธุรกิจ Logistic ของ VGI, การนำช่องทาง KEX ไปใช้ประโยชน์ขายสินค้าและบริการในเครือ JMART และการนำฐานลูกค้ากลุ่ม VGI ที่มีต่อยอดธุรกิจให้สินเชื่อ ซึ่ง JMART มีบริการครอบคลุมลูกค้าในทุกระดับและมีเทคโนโลยีที่นำสมัย

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและมูลค่าพื้นฐาน โดยกำลังสอบถามทางบริษัทถึงแผนการนำเงินไปต่อยอดในอนาคต รวมถึง Synergy ที่จะมีต่อประมาณการ อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานกรณีอิงหลักอนุรักษ์นิยม โดยรวมเฉพาะเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน PP และจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นของ JMART ยังสูงราว 39 บาท ยังให้ Upside จากราคาปิดวานนี้ จึงยังแนะนำ “ซื้อลงทุนระยะยาว ”โดยเฉพาะในจังหวะที่หุ้นมีโอกาสลงตอบรับ Sentiment ลบในระยะสั้นที่เกิดจากการเพิ่มทุนครั้งนี้

กลุ่ม BTS สร้าง Super synergies

บล.เคทีบีเอสที ประเมิน หลัง VGI และ U ประกาศเข้าลงทุนในหุ้น PP ของ JMART และ SINGER ด้วยการที่ VGI เข้าหุ้นเพิ่มทุน PP ของ JMART ที่ 206 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาทในราคาจองซื้อหุ้นละ 30.3370 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 6.26 พันล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทถือหุ้นใน JMART สัดส่วน 15 % และ JMART จะออก JMART-W6 จํานวน25.34 ล้านหน่วยให้ VGI ขณะเดียวกัน U จะลงทุนในหุ้นเพิ่มทุน PP ของ JMART ที่ 136 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท ราคาจองซื้อหุ้นละ 30.3370 บาท คิดเป็น 4.13 พันล้านบาท ส่งผลให้ U ถือหุ้นใน JMART 9.90% และ JMART จะออก JMART-W6 อีก 16.72 ล้านหน่วยให้ U ซึ่ง U จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ SINGER 197 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท อ ในราคาจองซื้อหุ้นละ 36.3005 บาทคิดเป็นเงิน 7.16 พันล้านบาท ส่งผลให้ถือหุ้น SINGER 24.90 % แถม SINGER จะออก SINGER-W3 อีก 11.56 ล้านหน่วยให้ U

ดังนั้น บล.เคทีบีเอสที มองว่า เป็นบวกต่อผลการดำเนินงานในระยะยาวของ JMART ผ่านการเพิ่ม Synergy ให้กลุ่ม โดยประเมินว่า Synergy ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือ ธุรกิจการขายสินค้า IT ซึ่ง คาด J Mobile จะมีการเปิ ดสาขาเป็ น pop-up store หรือจุด Drop point ให้กับลูกค้าในการรับสินค้า และซื้อสินค้าที่สถานี BTS ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบ COVID-19  ที่ ณ ปัจจุบัน J Mobile มีสาขาส่วนใหญ่ในห้าง นอกจากนี้ประเมินว่าสาขาที่เปิดจะเป็นสาขาแบบ Mixed-used ที่จะให้ SINGER, JMT และบริษัทในเครือมาให้บริการขายสินค้า

ขณะ ธุรกิจตามหนี้นั้น ประเมินว่า JMT จะมีรายได้จากการติดตามหนี้พิ่มขึ้น จากการให้บริการติดตามหนี้ธุรกิจ Rabbit finance ของ VGI เบื้้องต้น ประเมินว่าเงินทุนที่ JMART ได้เพิ่ม 1.0 หมื่นล้านบาท จะนําไปใช้ในการจ่ายชําระหนี้จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท, ใช้สําหรับ exercise warrant บริษัทลูก เช่น JMT และSINGER และเพิ่มแหล่งเงินทุนให้บริษัทเพื่อใช้ในการลงทุนในอนาคต โดยประเมินว่าการเพิ่มทุนข้างต้นจะทําให้ EPS และราคาหุ้น dilute ประมาณ 23% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้ าหมาย 47.50 บาท (Buy 3 / Hold 0 / Sell 0)

สำหรับ SINGER มองเป็นบวกจากฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้น และสามารถขยายสินเชื่อได้มากขึ้น โดยประเมินว่าเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุน PP ประมาณ 7.2 พันล้านบาทนั้นจะนําไปใช้สําหรับ การจ่ายชําระหนี้จากที่อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท โดยประเมินว่าทุกๆการจ่ายคืนชําระหนี้ 1.0 พันล้านบาท จะทําให้ D/E ปรับตัวลงเป็ น 1.6x จากเดิม 1.8x ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มขีดจํากัดความสามารถในการกู้ยืมเงิน หรือการออกหุ้นกู้ที่เพิ่มขึ้น ทําให้มีโอกาสที่บริษัทจะขอบอร์ดในการเพิ่มวงเงินออกหุ้นกู้เพิ่มจากปัจจุบันที่บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้เต็มวงเงินที่ขออนุมัติจากบอร์ด และ แหล่งเงินทุนในการขยายกิจการ และสินเชื่อ โดย คาดว่าทุกๆสินเชื่อที่เพิ่ม 1.0 พันล้านบาทจะคิดเป็น upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2022E ที่ +8% ทั้งนี้ประเมินว่าการเพิ่มทุนPP ครั้งนี้จะทําให้ EPS และราคาเป้าหมาย dilute ลงประมาณ -30.6% อยู่ที่ 1.00 บาท และ 34.70 บาท จากเดิม 1.45 บาท และ 50.00 บาท ตามลําดับ

 ฐานทุนแกร่ง Transform-Synergy ทุกรูปแบบ 

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART กล่าวว่า บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (VGI) และ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (U) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม BTS Group Holdings เข้ามาร่วมลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่จะได้ผสานพลังร่วมกับกลุ่มผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอีโคซิสเต็มครบวงจร สะท้อนความเชื่อมั่นใน JMART SINGER และ JMT ที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมาก อีกทั้ง ฐานเงินทุนที่จะเพิ่มขึ้น และแผนการ Transform และ Synergy ร่วมกันในทุกรูปแบบ โดยเป็นการมองระยะยาวไปอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า ด้วยเม็ดเงินระดมทุนก้อนใหญ่ ที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจ แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด ก็เชื่อมั่นได้ว่า JMART มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ

สำหรับแผนการ Synergy จากนี้ คาดจะได้เห็นการขยายฐานลูกค้า การขยายผลิตภัณฑ์และบริการในเครือของ JMART ในธุรกิจค้าปลีก การเงิน ประกัน และเทคโนโลยี ไปสู่ขอบเขตการให้บริการที่เป็นมากกว่า Online-to-Offline (O2O) โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์

ขณะที่ช่องทางการจำหน่าย SINGER ยังถือเป็นเบอร์หนึ่งที่สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านสาขาและแฟรนไชส์รวมกว่า 2,800 แห่ง รวมทั้งช่องทาง  ร้านค้ากลุ่มสินค้าเทคโนโลยี JAYMART MOBILE และบริษัทในเครือ เป็นเครือข่ายการกระจายสินค้าและเข้าถึงผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ผสานกับ KERRY เพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ในเครือเจมาร์ทได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้ง ทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน Blockchain รวมทั้งศึกษาเรื่อง Digital Token และการนำเอา JFIN Token มาใช้บนอีโคซิสเต็มของกลุ่ม BTS เป็นโอกาสในการสร้างระบบนิเวศน์ในเครือเจมาร์ทให้ครบวงจร

นอกจากธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่มเจมาร์ท ทำให้มีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้น มีโอกาสที่เครดิตเรทติ้งจะดีขึ้น และ การขยายธุรกิจด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลงของ SINGER และ JMT จะสะท้อนกลับมาที่ JMART ในแง่ของกำไรที่โดดเด่นชัดเจน

สำหรับตั้งเป้าภาพรวมกำไรปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับบริษัท VGI และ U ภายในกลุ่ม BTS ทั้งนี้ VGI และ U เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ JMART รวมสัดส่วน 24.9% ของทุนที่ชำระแล้ว