xs
xsm
sm
md
lg

ก่อสร้างป่วน! แรงงานขาดแคลนหนัก โควิด-19 ทำต่างด้าวในระบบหายกว่า 5 แสนคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 63 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการก่อสร้างโครงการใหม่ๆ รวมไปถึงการชะลอการก่อสร้างและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ไปด้วย แน่นอนว่าการชะลอการลงทุนย่อมส่งผลให้งานก่อสร้างในตลาดลดลง และทำให้เกิดการแย่งงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างต่อเนื่องมาถึงปี 64 ซึ่งยังไม่มีทีท่าจะหยุดลง โดยเฉพาะเมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหญ่ในช่วงเดือน พ.ค. จนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของประชาชนในประเทศเพิ่มขึ้นไม่หยุด และทำให้บริษัทอสังหาฯ ชะลอแผนการลงทุนออกไปอีกครั้ง

การชะลองานก่อสร้างและการลงทุนโครงการใหม่ ทำให้สถานการณ์ของบริษัทรับเหมาในปัจจุบันย่ำแย่มาก หลายๆ บริษัทจ่อปิดกิจการลง และโดยเฉพาะการสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายิ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และเงินหมุนเวียนของบริษัทรับเหมาก่อสร้างอย่างหนัก แต่ภายหลังการปลดล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้างและเปิดให้ดำเนินงานก่อสร้างได้ ทำให้บริษัทอสังหาฯ เร่งระดมแรงานและบริษัทรับเหมาเพื่อเร่งงานก่อสร้างโครงการที่มีแผนจะส่งมอบ หรือโอนกรรมสิทธิ์ภายในปีนี้ สถานการณ์ดังกล่าวกลายเป็นโอกาสสำคัญที่เข้ามาช่วยต่อลมหายใจของบริษัทรับเหมาขนาดกลางและเล็ก ที่จะเข้าไปรับช่วงงานก่อสร้างจากบริษัทขนาดใหญ่
 
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาของบรัทรับเหมาก่อสร้างในขณะนี้คือ การขาดแรงแคลนแรงงานในระบบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบให้ต้องหยุดชะงัก จากปัญหาความไม่สมดุลในตลาดแรงงาน เนื่องจากในแคมป์ก่อสร้างนั้นแรงงานส่วนใหญ่ คือ กลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งจากผลกระทบจากการปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงานไม่ต่ำกว่า 300,000-500,000 คน เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกของปี 64 นี้ ใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวหมดอายุเฉลี่ยเดือนละ 100,000 คน ทำให้มีแรงงานต่างด้าวที่ต้องเดินทางกลับประเทศไปต้นทาง และยังไม่สามารถเดินทางกลับมาทำงานในประเทศไทยได้

สุรเชษฐ กองชีพ
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัทฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนคอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า การกลับมาเปิดไซต์งานก่อสร้างในกรุงเทพมหานครและอีกหลายจังหวัด อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยคึกคักหรือมีกิจกรรมอะไรมากมายแบบก่อนหน้านี้เพราะว่าบางไซต์ก่อสร้างหรือว่าบางที่พักคนงาน ยังคงอยู่ในช่วงของการกักตัวหรือเฝ้าระวังการติดเชื้อเพิ่มเติมอยู่ ยังไม่สามารถเริ่มการก่อสร้างได้แบบที่ตั้งใจ นอกจากนี้ การที่เกิดปัญหาในเรื่องของการสั่งปิดไซต์งานก่อสร้างและที่พักคนงานในช่วงปลายเดือน มิ.ย.64 เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลให้คนงานก่อสร้างบางส่วนเลือกที่จะเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดหรือไปหางานทำที่จังหวัดอื่นๆ ที่ไม่โดนสั่งปิดไซต์งานก่อสร้าง เพราะคนงานส่วนใหญ่ยังคงต้องการรายได้และมีรายจ่ายชัดเจนอยู่แล้ว ไม่สามารถหยุดงานได้แบบที่รัฐบาลต้องการ

การกลับมาเปิดไซต์งานก่อสร้างยังคงมีปัญหาใหญ่อีก 1 ปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงปีกว่าๆ-2 ปีที่ผ่านมา คือ เรื่องของการขาดแคลนคนงานก่อสร้าง เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มีการปิดช่องทางผ่านแดนตามแนวชายแดนทุกช่องทางซึ่งมีผลให้การนำเข้าแรงงานต่างชาติติดปัญหา อีกทั้งแรงงานก่อสร้างที่เป็นคนไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ ซึ่งมีกิจกรรมการก่อสร้างต่อเนื่อง ทั้งโครงการของรัฐบาลและเอกชนภาคการก่อสร้าง หลายฝ่ายทั้งเอกชนและราชการพยายามผลักดันให้รัฐบาลแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 62 ที่มีการอนุมัติให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะชาวพม่า ลาว และกัมพูชามาได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.62 ตามมาตรา 59 และ 63/2 ก่อนที่จะมีการอนุมัติผ่านมติคณะรัฐมนตรีอีกครั้งเมื่อเดือน ธ.ค.63 เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยแบบถูกต้องตามกฎหมาย ยังไม่รวมชนกลุ่มน้อยอีกบางส่วนที่เข้ามาทำงานตามมาตรา 63/1 ซึ่งเรื่องการแก้ปัญหานี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามช่วยเหลือบริษัทเอกชนที่ต้องการแรงงานต่างด้าวเพื่อทดแทนแรงงานชาวไทยที่ลดลงและไม่ทำงานที่ใช้แรงงานหรืองานหนัก

ข้อมูลจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวกระทรวงแรงงาน พบว่า จำนวนแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมายที่เป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน 3 ประเทศคือ พม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งเป็น 3แรงงานหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานในประเทศไทยนอกเหนือจากแรงงานคนไทย ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 อยู่ที่รวมกัน 2.169 ล้านคนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 91% ของจำนวนแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมายที่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย ซึ่งจากสถิติที่รวบรวมมาพบว่า จำนวนแรงงานต่างด้าวของ 3 สัญชาติดังกล่าวลดลงมาตั้งแต่ปี 63 ก่อนที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือโดยผ่านมติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สามารถนำเข้าแรงงานต่างด้าวจาก 3 ประเทศดังกล่าวเข้ามาได้เพิ่มเติมมากขึ้น แต่จำนวนก็ยังคงไม่เทียบเท่าตอนก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19 เพราะจำนวนของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติดังกล่าว ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 มีจำนวนรวมกันที่ประมาณ 2.169 ล้านคน ยังคงน้อยกว่าตอนสิ้นปี 62 อยู่ 6.3 แสนคน ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลายอย่างในประเทศไทย แม้ว่าจะมีโรงงานหรือกิจการจำนวนไม่น้อยที่ปิดกิจการไปในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา แต่บางอุตสาหกรรมยังคงเดินหน้าอยู่ เช่น อุตสาหกรรม หรือกิจการก่อสร้าง


แรงงานในกิจการก่อสร้างส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติจาก 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งแน่นอนว่าได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แบบชัดเจน โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ต้นปี 63 เป็นต้นมา เพราะการปิดด่านชายแดนและการกักตัวเมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมไปถึงการจ้างงานต่างๆ ซึ่งมีปัญหาแน่นอนแม้ว่ารัฐบาลพยายามช่วยเหลือผ่านมาตรการที่อนุมัติมติคณะรัฐมนตรีในการนำเข้าแรงงานจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน แต่จำนวนแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมหรือกิจการก่อสร้างจาก 3 ประเทศ ณ เดือน มิ.ย.64 อยู่ที่ประมาณ 440,968 คน ยังคงน้อยกว่าตอนสิ้นปี 63 ประมาณ 21% หรือลดน้อยลงไป 118,650 คน

สถานการณ์ดังกล่าวมีผลต่อกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในประเทศไทยแน่นอนยังไม่นับการที่แรงงานก่อสร้างคนไทยที่ทำงานในกรุงเทพมหานคร หรือในจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งเลือกที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ดังนั้น บริษัทผู้รับเหมาที่ยังคงต้องดำเนินกิจการก่อสร้างต่อเนื่องเพราะรับงานไว้แล้วและงานก่อสร้างทุกงานนั้นมีกำหนดการที่ชัดเจน อีกทั้งไม่สามารถผัดผ่อนหรือเลื่อนกำหนดส่งมอบงานออกไปได้ยกเว้นมีเหตุผลที่เพียงพอ ซึ่งเรื่องของการปิดไซต์งานก่อสร้างอาจจะเป็นเหตุผลในการส่งมอบงานล่าช้าแต่ก็ยืดระยะเวลาออกไปได้ไม่นานเพราะปิดไซต์ก่อสร้างไม่ถึง 1 เดือน การขาดแคลนแรงงานก่อสร้างไม่ใช่เหตุผลที่สามารถใช้เจรจายืดระยะเวลากำหนดแล้วเสร็จออกไปจากเดิม

ดังนั้น บริษัทก่อสร้างต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการเจรจากับผู้ว่าจ้างโครงการซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเลือกเพียงบางโครงการที่มีความจำเป็นต้องให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดก่อนจะเริ่มการก่อสร้างโครงการใหม่เพราะผู้พัฒนาที่เป็นเจ้าของโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จของแต่ละโครงการอยู่แล้วโดยโครงการที่จำเป็นต้องมีการระดมคนงานเพื่อเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโครงการอื่นๆ คือโครงการที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 64 หรือในช่วงต้นปี 65 เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเงินที่ได้จากการโอนกรรมสิทธิ์มาหมุนเวียนในองค์กร โครงการที่ยังไม่เริ่มการก่อสร้างหรือมีกำหนดแล้วเสร็จนานกว่าที่ระบุก็อาจจะส่งคนงานไปไม่มากไม่ต้องเร่งงานมากทำไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาค่อยระดมคนงานไปช่วยทีหลัง ซึ่งได้ผลดีทั้งในมุมของบริษัทก่อสร้าง
และฝั่งของผู้พัฒนาเจ้าของโครงการ


เนื่องจากการดำเนินงานในวิธีดังกล่าวทำให้ใช้จำนวนคนงานที่บริษัทก่อสร้างมีในตอนนี้มีไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ การสรรหาแรงงงานเข้ามาเพิ่มเติมก็ยังทำได้ไม่เต็มที่ทุกบริษัทพยายามรักษาแรงงานหรือคนงานภายใต้บริษัทของตนเองให้ยังคงทำงานต่อเนื่องไปให้ได้ยาวนานขึ้น แม้ว่าจะเริ่มมีการจ่ายค่าแรงมากขึ้นหรือมีการอาศัยความสัมพันธ์ในกลุ่มคนงานมาดึงแรงงานบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากนักเพราะแรงงานเหล่านี้มีหัวหน้าหรือคนที่เป็นเสมือนหัวหน้าคอยควบคุมกันเอง บางโครงการที่สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานก็เริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นแต่เป็นการทดแทนเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เช่น การใช้ Precast หรือแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป โครงสร้างสำเร็จรูป หรือห้องน้ำสำเร็จรูปแต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงต้องอาศัยแรงงานคนในการประกอบและติดตั้ง

การก่อสร้างล่าช้าอาจจะมีผลต่อการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ไม่มากนัก เพราะการจะโอนกรรมสิทธิ์ได้นั้นไม่ได้อยู่ที่การก่อสร้างเพียงอย่างเดียวต้องอยู่ที่มีการซื้อขายกันด้วย ซึ่งในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทยชะลอตัวรุนแรงแบบที่เห็นกันมาในช่วง 2-3ปี ชัดเจนว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 64 คงไม่เทียบเท่าปีที่ผ่านมา หรือปีก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะลดเว้นการเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงปี 64 แต่เน้นไปที่การโอนกรรมสิทธิ์รวมไปถึงการหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมหรือขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจของตนเองให้กว้างกว่าที่เคยทำมาในอดีตเพื่อความยั่งยืนและต่อเนื่องของกิจการในอนาคตซึ่งไม่สามารถพึ่งพารายได้จากเพียง 1 ช่องทางได้อีกแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น